การปะทะกันอย่างดุเดือดและความขัดแย้งทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นกำลังกระจายไปทั่วโลก – จากฮ่องกงถึงอียิปต์ถึงอิรัก – เนื่องจากประชาชนพยายามที่จะต่อต้านการทุจริตของรัฐบาล , การปกครองแบบเผด็จการ และอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น ความรู้สึกต่อต้านรัฐบาลได้ก่อให้เกิดการชุมนุม การปล้นสะดมและการประท้วงอย่างสันติ ทั้งในเปรู ฝรั่งเศสและเอกวาดอร์
จากข้อมูลของ Al Jazeera ผู้ประท้วงชาวอิรักเกือบ 100 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 4,000 คน หลังจากชุมนุมประท้วงต่อต่านการทุจริตของรัฐบาล โดยรัฐบาลของประเทศกำลังพยายามควบคุมสถานการณ์ด้วยการปิดบริการบริการอินเทอร์เน็ต เพื่อให้มีการวางแผนและประสานงานการชุมนุมได้ยากขึ้น
ในเอกวาดอร์ ก็มีกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาต่อต้านการขึ้นราคาก๊าซ โดยการปิดถนน
ขณะที่ฝรั่งเศส นับเป็นสัปดาห์ที่ 47 แล้วของการประท้วงที่ไม่หยุดยั้งต่อนโยบายของรัฐบาล
ขณะที่ในฮ่องกง เด็กอายุ 14 ปีถูกยิงระหว่างการประท้วงที่รุนแรง มีการปล้นสะดมร้านค้า ระบบรถไฟ , ขนส่งมวลชนถูกปิดลงเนื่องจากมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง และมีการออกกฎหมายใหม่ที่ห้ามใช้หน้ากากอนามัย
ขณะที่ชุมชน Cryptocurrency ได้เน้นว่าทำไม Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ มีความสำคัญต่อภูมิภาคที่ประสบกับความวุ่นวายทางการเมืองเหล่านี้ เพราะความสามารถในการเข้าถึงเงินของพวกเขาโดยไม่จำเป็นต้องผ่านธนาคารหรือคนกลางอื่น ๆ ช่วยงกำจัดความเสี่ยงของการแช่แข็งหรือถูกยึดโดยรัฐบาล
นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับตู้เอทีเอ็มของฮ่องกงที่ถูกกดเงินสดไปจนหมดเกลี้ยง เนื่องจากความไม่แน่นอนในภูมิภาค
Anthony Pompliano ผู้ก่อตั้ง Morgan Creek Digital กล่าวว่า วิกฤตการเงินเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่สำคัญของสินทรัพย์ดิจิตอล “ลองนึกภาพว่าคุณไม่สามารถเข้าถึงเงินของคุณได้แต่ Bitcoin สามารถแก้ไขสิ่งนี้ได้”
Goldman Sachs รายงานว่านักลงทุนในฮ่องกงได้โอนเงินราว 4 พันล้านดอลลาร์ไปยังประเทศสิงคโปร์ท่ามกลางการประท้วงที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนั้น ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ในฮ่องกงก็พุ่งสูงถึงระดับสูงสุดในเว็บ LocalBitcoins ที่เป็นการซื้อขายแบบ peer-to-peer โดยมีโวลลุ่มมากกว่า 12 ล้านเหรียญฮ่องกงใน BTC มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา : LINK