หลังจากถูกปฏิเสธใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากทาง ก.ล.ต. โดยให้เหตุผลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเป็นเหตุให้ระบบงานสำคัญของบริษัทยังไม่มีความพร้อมตามมาตรฐาน ทางด้านเว็บเทรด Coin Asset ก็ได้มีการออกแถลงการณ์ชี้แจงตามมาดังนี้
“บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) ขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจแก่ลูกค้าและประชาชน โดยยืนยันว่าระบบการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้าในระบบ มีความปลอดภัยตามที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ระบบการทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า หรือ KYC (Know Your Customer) ของบริษัทเอง ก็มีการตรวจสอบข้อมูลไปยังธนาคารในประเทศไทย อีกทั้งในส่วนการปราบปรามการฟอกเงิน ทางบริษัทก็มีการเฝ้าระวังการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ หากพบธุรกรรมที่มีความผิดปกติก็จะมีการขอคำชี้แจงจากลูกค้าและดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้”
บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) ขอน้อมรับคำปฏิเสธดังกล่าว และมีแนวทางปฏิบัติดังนี้
- บริษัทจะแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าทราบ เพื่อการโอนทรัพย์สินของตนเองคืนหรือโอนไปยังผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่นตามความประสงค์ของลูกค้า ตามที่กระทรวงการคลังอนุญาตให้บริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้จนถึงวันที่ 21 มกราคม 2562 และแจ้งผลการดำเนินงานให้ ก.ล.ต. ทราบด้วย
- Coin Asset จะเข้าหารือกับ กลต. อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562 เพื่อกำหนดแนวทางในการเข้ายื่นขอใบอนุญาตรอบที่สอง ซึ่ง กลต. เคยให้ข้อมูลว่าอาจต้องใช้เวลาพิจารณายาวนานถึง 4 เดือน โดยทาง Coin Asset ยืนยันว่าที่สุดแล้วจะต้องส่งผลกระทบต่อลูกค้าให้น้อยที่สุด
“ถึงแม้ว่าจะถูกปฏิเสธจากการยื่นขอใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ในครั้งนี้ บริษัทฯ ก็ยังคงมุ่งหน้าที่จะขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจ เป็นผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล และเตรียมความพร้อมในระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตใหม่อีกครั้ง ขอให้นักลงทุนทุกท่านที่ทำการซื้อ ขายบนเว็บของ Coin Asset วางใจและรอฟังข่าวความคืบหน้าต่อไป” นายศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้งคอยน์ แอสเซท กล่าว
ปัจจุบัน Coin Asset จดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท มีพนักงานและผู้บริหารรวมกว่า 50 คน และตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปีของการดำเนินธุรกิจ มีการใช้งบประมาณไปแล้วเกือบ 50 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังเป็นหนึ่งในไม่กี่กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนสัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยการถูกจัดอันดับอยู่บน Blockfolio และ CoinGecko ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดอันดับในแวดวงคริปโตเคอเรนซีจากทั่วโลก และจะไม่หยุดความตั้งใจที่จะเป็นกระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นฐานของการให้ความเคารพต่อกฎหมาย อันเป็นหลักสำคัญในการอยู่ร่วมกันของสังคม