วันนี้เมื่อ 1 ปีที่แล้ว เป็นวันที่เหตุการณ์ฟองสบู่ Crypto เกิดการระเบิดขึ้น ก่อนที่จะทำให้เกิดการร่วงของราคาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และต่อเนื่องมาตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี 2018 และต่อเนื่องมาสู่ปีใหม่
ตลาด Crypto ลดลง 84% จากจุด All Time High
จากข้อมูลของ CoinMarketCap มูลค่าตลาดของ cryptocurrency ซึ่งเป็นการวัดตัวเลขรวมกันของ cryptocurrencies ทั้งหมด สูงถึง 835.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 7 มกราคม 2018
นั่นหมายความว่าอย่างน้อยบนหน้ากระดาษ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิตอลก็เคยมีระดับที่มากกว่า Facebook และ Twitter รวมกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มูลค่าตลาดของ cryptocurrency เหลืออยู่เพียง 136.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลงมาประมาณ 84% จากจุดสูงสุด สิ่งที่น่าสังเกตคือการลดลงครั้งนี้เกิดขึ้นแม้ว่าจำนวนของโครงการ crypto จากระบุไว้ในเว็บ CoinMarketCap ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2,086 โครงการก็ตาม
มูลค่าของ Ripple สูงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2018
เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเกิดการร่วงของราคาจากจุดสูงสุด และเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หากเรามองดูแต่เฉพาะราคาของ BTC อย่างไรก็ตามเงินทุนนั้นไม่ได้ไหลออกจากตลาด cryptocurrency ไปซะทีเดียวอย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนแรก เพราะฟองสบู่ของ altcoin ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2017 และต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์แรกของปี 2018
จากรูปด้านบนจะพบว่า XRP และ altcoins อื่น ๆ ยังต่อต้านการดึงของการลดลงของราคา bitcoin ได้อยู่ – อย่างน้อยก็ใน 1 หรือ 2 สัปดาห์แรก
Ripple นั้นได้รับความนิยมเป็นพิเศษโดยในตลาดเกาหลีใต้ ซึ่งราคาเคยสูงถึง $3.84 สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกของราคาโทเค็นอีกด้วย ขณะที่ในวันนี้ราคาของ XRP อยู่ที่ $ 0.366 ซึ่งในหนึ่งปีลดลงมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
แน่นอน XRP ไม่ได้เป็นเหรียญ cryptocurrency เพียงเหรียญเดียวที่มูลค่าลดเสียง 90 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า นับจากจุดสูงสุดของปี 2018 เหรียญ Crypto สำคัญอื่น ๆ และโทเค็นต่างๆ มูลค่าก็ลดลงอย่างมากด้วยเช่น Bitcoin cash (96 เปอร์เซ็นต์) litecoin (90 เปอร์เซ็นต์), Tron (92 เปอร์เซ็นต์), Cardano (96 เปอร์เซ็นต์), Monero (90 เปอร์เซ็นต์), NEM (95 เปอร์เซ็นต์) 97 เปอร์เซ็นต์), NEO (96 เปอร์เซ็นต์) และ Zcash (94 เปอร์เซ็นต์)
จำเป็นต้องพูดว่าปี 2018 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดสำหรับในโลกของเงินดิจิตอล ตลาดหมีบังคับให้นักลงทุนต้องมองหาโครงการต่างๆด้วยความละเอียดรอบคอบมากขึ้น และการปราบปรามทางกฎหมายของรัฐบาลทั่วโลกก็ได้ทำลายตลาดของ initial coin offering (ICO) ไปแล้วเรียบร้อย ก็ได้แต่หวังว่ามันจะส่งผลให้มีการออกกฎหมายใหม่ที่ส่งเสริมนวัตกรรมที่แท้จริงขึ้นมา
สิ่งสำคัญที่สุดคือตลาดหมีไม่ได้หยุดยั้งนักพัฒนาไม่ให้สร้างเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ Bitcoin และ cryptocurrency อื่น ๆ ถูกยอมรับและนำมาใช้งานจริงมากขึ้นแต่อย่างใด ตัวอย่างเช่นเครือข่าย Lightning Network (LN) นั้นเราก็ยังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคา Bitcoin จะลดลงก็ตาม ยิ่งกว่านั้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของ bitcoin เฉลี่ยก็ปรับลดลงจนต่ำกว่าเดิมในรอบสามปี
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นักลงทุนกำลังรอการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของตลาดกระทิง ก็ได้แต่หวังว่าการหลุดพ้นจากช่วงฤดูหนาวของ Crypto หรือ Crypto Winter จะทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
ที่มา : LINK
