New York Post ได้รายผลการศึกษาของ Deidre Campbell ประธานฝ่ายบริการทางการเงินทั่วโลกของ Edelman ว่า crypto ยังคงเป็นการลงทุนระยะยาวในหมู่นักลงทุน millennial (กลุ่มคนที่เกิดในช่วง ค.ศ. 1980-1996 )
“ทุกคนที่มีสกุลเงิน crypto บอกฉันว่า พวกเขาต้องการจะซื้อมันเร็ว ๆ นี้” กล่าวโดย Campbell ผู้ที่เปิดเผยว่ากว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่ม millennial กำลังใช้หรือครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่
กลุ่มคน millennail ไม่เชื่อถือในระบบของธนาคารที่ถือเงินพวกเขาอยู่ เนื่องจากระบบที่ไม่มีประสิทธิภาพและเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัย ทำให้ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน millennail ได้
ในปี 2015 ที่ crypto เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นใหักับกลุ่ม millennail มากกว่าระบบที่ล้าสมัยของธนาคารเป็นอย่างมาก จากการศึกษาของสถาบันทางการเมืองแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University’s Institute of Politics) พบว่า มีเพียงร้อยละ 14 ของกลุ่ม millennial ที่เชื่อว่า Wall Street ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อลูกค้า
หลังจากที่มีการเผยแพร่การศึกษานี้ออกมา Kebin Kelly ซีอีโอและหุ้นส่วนของ Recon Capital ได้ออกมากล่าวว่า “นี่เป็นปัญหาของ Wall Street อย่างแท้จริง เราไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Wall Street เลยนับตั้งแต่มีวิกฤตการณ์ทางการเงิน ทุกวันนี้เรายังเห็นพาดหัวข่าวว่า : Wall Street ทำสิ่งนั้น ๆ อีกแล้ว”
สามปีต่อมา ช่วงที่มีการเกิดขึ้นของแอพพลิเคชั่นทางการเงิน (fintech) และ crypto ได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่ม millennial ส่วนในประเทศจีนนั้นก็มี Alipay แพลตฟอร์มทางการเงินของ Alibaba ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ได้เริ่มให้มีการทำธุรกรรมออนไลน์ในประเทศมากขึ้นกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
fintech ได้รับความนิยมอย่างมากในภูมิภาคที่ยังใช้ระบบธนาคารเป็นหลักอยู่ ธนาคารหลักในประเทศฟิลิปปินส์อย่างธนาคาร Union มีความต้องการให้ประชาชนมีเงิน 2,000 ดอลลาร์ เป็นยอดเงินคงที่อยู่ในบัญชีธนาคาร ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะใช้ fintech เป็นหลัก
ในตลาดหลักของ cryptocurrency อย่างสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้และญี่ปุ่น มีการเพิ่มขึ้นของกลุ่ม millennial ที่ใช้ cryptocurrency อย่างรวดเร็ว เนื่องจากประเทศดังกล่าวได้เปิดให้ใช้ cryptocurrency อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนหรือการทำธุรกรรมอื่น ๆ