จบไปเเล้วกับงาน CAX SWAG 11.11 11:11 ในปี 2018 เป็นงาน Meetup ครั้งเเรกของ Coin Asset ที่จัดขึ้น ณ C Asean เป็นงานที่จัดเพื่อพบปะกับเทรดเดอร์ที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของ Coin Asset พร้อมบอกเล่าเรื่องราวในสิ่งทำมาตลอดปี 2018 นี้ รวมถึงเป้าหมายและสิ่งที่ Coin Asset กำลังจะทำให้เกิดขึ้นในปีหน้า ภายในงานมีเซอร์ไพรส์หลายอย่างกับผู้เข้าร่วมงาน อาทิ รางวัลเทรดฟรี 1 ปี 3 รางวัลสำหรับคนที่ลงทะเบียนร่วมงานในลำดับที่ 1, 11, 111 พร้อมเสื้อเเละหมวก CAX SWAG Limited จาก Coin Asset ให้แก่ผู้ร่วมงานที่มากว่า 150 ท่าน
บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น สนุกสนาน ทุกคนต่างมาจากที่ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหล่าเทรดเดอร์ที่พูดคุยกันบน Telegram เป็นส่วนมาก งานนี้จึงได้มาเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกรวมถึงได้เเลกเปลี่ยนมุมมองทางการลงทุนในตลาดคลิปโตกัน
ณ เวลา 11:11 ทาง Coin Asset ได้เเริ่มพูดถึงสิ่งที่ผ่านมาของ Coin Asset เเละอุปสรรคปัญหา ที่ผ่านมาตั้งเเต่เปิดบริษัท จนถึงปัจจุบันที่ก้าวผ่านมาได้ อาทิ แนวคิด การเริ่มต้นพัฒนาเว็บไซต์, การนำเหรียญ HPC, JFIN เเละ DEV Network ขึ้นเทรตบน www.coinasset.co.th ต่อด่วยการเริ่มสร้างชุมชนบน Telegram จากคนในห้องไม่กี่คน จนปัจจุบันมีมากกว่า 1,500 คน และถือเป็น 1 ในชุมชนเกี่ยวคริปโตไทยที่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมากเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ และยังพูดถึงสิ่งที่ทำสำเร็จแล้วในปี 2018 นี้ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ การพัฒนาให้เว็บไซต์ ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย สามารถทำธุรกรรมฝากเงินเข้าเว็บได้เร็วที่สุดในอาเซียนเลยก็ว่าได้ ด้วยระบบ QR Payment โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 3 วินาทีต่อธุรกรรม จากปกติที่เว็บอื่น ๆ ทำได้ที่ 15 – 30 นาที
พร้อมยังเปิดตัวบริษัทลูกนาม Ledger X ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบต่าง ๆ ให้กับ Coin Asset และยังเตรียมพัฒนาระบบ ICO Portal และยื่นขอใบอนุญาตอีกด้วย นับว่าครบองค์ประกอบจริง ๆ สำหรับบริษัทนี้
แถมยังเชิญ Co-Founder ของ Ledger X ออกมาเปิดตัวต่อหน้าสาธารณะชนเป็นครั้งแรก มีความน่ารักตอนนำเสนอบริษัท เพราะปกติคุยกับคอมพิวเตอร์มากกว่าคุยกับคน
ส่วนไฮไลท์ในงานจัดว่ามาเป็นชุดจริง ๆ สำหรับ Coin Asset จะถือว่าเรียกแฟนคลับมารับฟังวิสัยทัศน์อย่างเดียวคงไม่ใช่เพราะ ได้ทำการเปิดตัว UI ใหม่ของเว็บไซต์ Coinasset.co.th ที่เปลี่ยนจากเดิมทั้งหมด ทำเอาเหล่าแฟนคลับปรบมือลั่นให้กับเว็บใหม่ที่จะได้ใช้กัน เท่านั้นไม่พอ หลังจากอธิบายถึง UI ใหม่ที่พัฒนามานี้ ทำเซอร์ไพรส์โดยการแอบเปลี่ยนจากของเดิมเป็นของใหม่ทันทีในงาน ทำเอาเรียกเสียงฮือฮาจากคนในงานได้เป็นอย่างมาก พร้อมทั้ง คนที่ไม่ได้มางานแต่ติดตามผ่าน Facebook Live ต่างตกใจกับ UI ใหม่ของ Coin Asset ที่สวยและทันสมัยขึ้นสมกับสโลแกนที่เปลี่ยนจาก EASY FREIDLY SECURITY มาเป็น FAST AND SIMPLE พร้อมทั้งปล่อย Killing Feature ที่สามารถถอนเหรียญจากเว็บผ่านการสแกน QR code ได้ด้วย ซึ่งปกติเว็บไซต์เหล่านี้เวลาถอนจะต้องคัดลอก Address แล้วมาวางในช่อง Address ปลายทางที่ต้องการโอนไป ใครที่กำลังพัฒนา Wallet อยู่มีร้อน ๆ หนาว ๆ แน่นอนกับ Feature ใหม่นี้ของ Coin Asset
ไฮไลท์ต่อมาที่พอจะเดาออกว่าจะต้องถูกพูดถึงในงานนี้แน่ ๆ คือ CAX TOKEN หรือเหรียญของ Coin Asset เอง (ซึ่งเป็นเจ้าที่สองในการออกสื่อ) โดยในงานได้พูดคร่าว ๆ ว่าเหรียญจะใช้ทำอะไรได้บ้าง ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ ใครถือเหรียญนี้อยู่จะมีสิทธิ์มีผู้ช่วยส่วนตัวซึ่งเป็น AI คอยช่วยเหลือ และยังประกาศอีกว่า 10% ของเหรียญทั้งหมดจะถูกปล่อยออกมาให้เฉพาะ 10,000 users แรกที่ทำการยืนยันตัวตนพร้อมกับมีการซื้อขายมากกว่า 1 BTC ขึ้นไป โดยถ้าผ่าน 2 ข้อนี้ จะได้รับคนละ 1,000 CAX TOKEN และ อีก 70% ทั้งหมดจะถูก Mining โดย การเทรด, ระบบ Refferal , กิจกรรมส่งเสริมตลาด , และ Air drop ซึ่งทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับ Block ที่เกิดขึ้น ( ยังไม่ถูกพูดถึงในงานว่าจะมีเหรียญถูกปล่อยออกมาต่อ Block ในจำนวนเท่าไร เพราะในช่วงที่มีการพูดถึงการพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มศักยภาพของเว็บไซต์ มีพูดถึงการสร้าง Blockchain ขึ้นมาเพื่อบันทึกธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายใน Coin Asset เองทั้งหมด ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ในวงการนี้อย่างมาก เพราะ Coin Asset ประกาศว่าต้องการที่จะเป็นผู้ให้บริการที่โปร่งใสที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ นี่ถือเป็นการ Hybrid จากการเป็น Exchange ที่เป็นระบบ Centrarized มาเป็นกึ่ง ๆ Decentrarized ไปแล้ว นับว่าเป็นไอเดียที่ฉีกแนวตามสไตล์ Coin Asset อย่างแท้จริง
และไฮไลท์สุดท้ายของงานคือการประกาศว่ากำลังจะพัฒนาระบบ Mobile Application ซึ่งสิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากคือการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เป็นผู้ช่วยให้เหล่าเทรดเดอร์ โดย Coin Asset ได้ตั้งชื่อ AI หรือว่าที่ผู้ช่วยประจำตัวของเรานี้ว่า Malee ซึ่ง Coin Asset เคลมว่า อนาคต เราจะสามารถเทรดด้วยเสียงได้แล้ว เพราะ บางครั้งตลาดคริปโตราคาผันผวนสูงมาก กว่าเราจะล็อคอินเข้าบัญชีได้ ราคาก็ไปไกลแล้ว แต่ถ้าเรามีผู้ช่วย และสั่งการแทนด้วยเสียง น่าจะลดระยะเวลาลงได้เยอะเลย
ในส่วนรายละเอียดของ AI นามว่า Malee นี้ ต้องคอยตามกันต่อไปครับว่า Coin Asset จะปล่อยระบบนี้ออกมาให้เราได้ใช้เมื่อไร ซึ่งคาดว่าในปี 2019 นี้ เราน่าจะได้เห็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ Coin Asset อีกมากมายแน่นอน ต้องคอยติดตามกันครับ เพราะแบรนด์นี้ เขาไม่เคยหยุดพัฒนาจริงๆ
ช่วงสุดท้ายของงานมีการเชิญพาร์ทเนอร์ที่ทาง Coin Asset ได้ไปลงทุนไว้บางส่วนมาพูดถึงโปรเจคนี้ต่อหน้าเหล่าแฟนครับของ Coin Asset ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งมอบรางวัลให้กับผู้โชคดีทั้ง 3 ท่านที่จะได้เทรดใน Coin Asset แบบฟรีๆ ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ซึ่ง 1 ในนั้นมีพี่เสก ซุปตาร์ให้ Bitcoin Addict เราด้วย ถือว่าโชคดีจริงๆเลย
ก่อนจบงาน Coin Asset ประกาศว่า เราจะทำแบบนี้ในทุกวันที่ 11 / 11 เวลา 11:11 ของทุกปี เพื่ออัพเดตสิ่งที่ทำมาตลอดทั้งปี และสิ่งจะทำในปีถัดไป ถือว่าปัจจุบัน Coin Asset เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากขึ้นจริงๆ และพัฒนาตัวเองไม่หยุดเลย
อย่างไร ขอเป็นกำลังใจให้ Coin Asset รีบพัฒนา และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านนี้ แบบเต็มตัวในอนาคตครับ ^^
