SC Johnson บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับใช้ในครัวเรือน ได้ประกาศความร่วมมือกับ Plastic Bank ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับการรีไซเคิลขยะ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามของพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลก โดยการเพิ่มอัตราการรีไซเคิลในพื้นประเทศอินโดนีเซีย
Plastic Bank ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่ประสบความสำเร็จในประเทศเฮติอย่าง proof-of-concept ที่ใช้โซลูชัน cryptocurrency แบบกำหนดเอง ที่ทำงานบนโปรโตคอล Hyperledger Fabric ของไอบีเอ็ม เพื่อเชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อพลาสติกและผู้รวบรวมขยะพลาสติกแต่ละราย ซึ่งเป็นวิธีที่เชื่อถือได้เพื่อตอบแทนผู้รีไซเคิลแต่ละรายในการรวบรวมพลาสติกในมหาสมุทร
รายงาน Ocean Conservancy ฉบับปี 2015 และศูนย์ธุรกิจและสิ่งแวดล้อมของ McKinsey ระบุชื่อประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์และประเทศเวียดนาม เป็น 5 ประเทศที่มีส่วนรับผิดชอบต่อพลาสติกที่สูญหายในมหาสมุทรกว่าร้อยละ 55 ซึ่งรายงานฉบับนี้ยังกล่าวอีกว่าการเพิ่มอัตราการรีไซเคิลและการรีไซเคิลพลาสติกใน 5 ประเทศนี้ขึ้นเป็นร้อยละ 80 จะทำให้อัตราการรั่วไหลของพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลกลดลงร้อยละ 23
ธนาคารเพื่อการพัฒนาและผลิตพลาสติก (Plastic Bank) ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบ blockchain ที่เชื่อมโยงกับแอพพลิเคชั่นมือถือ และให้รางวัลแก่นักสะสมพลาสติกแต่ละรายเป็น digital token แทนเงินสด
David Katz ผู้ก่อตั้งและ CEO ของธนาคาร Plastic Bank พูดถึงความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนกับ SC Johnson ว่า
“ความร่วมมือครั้งนี้กับ SC Johnson เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสสำหรับคนที่อาศัยอยู่พื้นที่แห่งนี้และจะทำให้ผู้เก็บขยะมีความภาคภูมิใจมากขึ้น SC Johnson เป็นบริษัท CPG แห่งแรกที่พัฒนาโครงการประเภทนี้ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชากร เศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งประชาชนในท้องถิ่นที่ขาดแคลนด้วย”
ตามข้อมูลของ SC Johnson ศูนย์รวบรวมที่มีกำลังการผลิตพลาสติกขั้นต่ำ 100 เมตริกตันต่อปี จะเริ่มดำเนินการภายในเดือนพฤษภาคมปี 2019 โดยจะมีการเปิดศูนย์กลางแห่งแรกภายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ที่บาหลี นอกจากจะให้แรงจูงใจในการกำจัดและจำกัดการรั่วไหลของพลาสติกในมหาสมุทรแล้ว โปรแกรมนี้ยังให้ความรู้แก่ชุมชนท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซียและประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและมลภาวะของพลาสติกและโอกาสของการนำมารีไซเคิล