ตลอดระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมา ราคา Bitcoin วิ่งอยู่ในกรอบราคาที่ 6,300 ดออลาร์ถึง 6,500 ดอลลาร์เท่านั้น หากดูจากกราฟด้านล่างจะเห็นได้ว่า Bitcoin ยังคงสร้างเสถียรภาพมาร่วม 2 สัปดาห์และดูเหมือนยากที่จะทะลุแนวต้านสำคัญนี้ไปได้ หากไม่มีการกระเตื้องของราคาที่มากกว่านี้ และเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาปริมาณการซื้อขายของ Bitcoin ลดลงกว่า 10% จาก 3.5 พันล้านดอลลาร์ เหลือ 3.1 พันล้านดอลลาร์ เหตุเป็นเพราะนักลงทุนไม่แน่ใจในทิศทางของ Bitcoin ทำให้ปริมาณการซื้อขายลดต่ำลงนั่นเอง
สถานการณ์ปัจจุบันกับการ breakout
ตามที่นักลงทุนแถวหน้าและวิเคราะห์ด้านเทคนิค Peter Brandt กล่าวว่า “Bitcoin นั้นวิ่งเป็น sideway (ราคาขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นระยะเวลานาน) ตลอดระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมา” อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เหล่านักลงทุนต่างเฝ้าสังเกตราคา Bitcoin อย่างใกล้ชิด และหากเกิดการขึ้นราคาอย่างฉับพลันของ Bitcoin อาจจะมีโอกาสที่จะทะลุแนวต้านที่ 6,800 และ 7,000 ดอลลาร์ได้
นี่อาจจะเป็นอะไรที่ผิดวิสัยไปซักหน่อย เพราะที่ผ่านมาตลาด cryptocurrency นั้นมีความผันผวนและปริมาณการซื้อขายค่อนข้างสูง ในทางเทคนิคแล้ว ราคาของ Bitcoin มีการเคลื่อนไหวน้อยมาก โดยวิ่งอยู่ที่ราว ๆ 6,300 ดอลลาร์ ถึง 6,800 ดอลลาร์เท่านั้น ตั้งแต่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
แต่บ่อยครั้งที่การสร้างเสถียรภาพของ Bitcoin ทำให้สกุลเงินหรือเหรียญ Token อื่น ๆ ในตลาด cryptocurrency มีการปรับตัวสูงขึ้น ดังจะเห็นได้จาก Wanchain, Golem, Funfair, Aelf และ Zilliqa ที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ 2 ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
การพัฒนาในเชิงบวก
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาโดยมีการกำหนดห้ามไม่ให้ Alipay ดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมที่เกี่ยวกับ cryptocurrency รัฐบาลจีนได้สั่งยุบตลาด crypto ซึ่งช่วยเพิ่มความเข้มงวดในการห้ามขายทรัพย์สินประเภทนี้
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม CnLedger ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูล cryptocurrency ที่เชื่อถือได้ในประเทศจีนรายงานว่า “ศาลท้องถิ่นตัดสินให้ Bitcoin เป็นทรัพย์สินและได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมาย ยืนยันความถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการเป็นเจ้าของและการถือครอง Bitcoin”
ในขณะที่คำตัดสินของศาลไม่ได้ทำให้นักลงทุนในประเทศจีนสามารถลงทุนใน BTC ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สามารถที่จะพึ่งพาตลาดที่ไม่ต้องสั่งการโดยธนาคาร (OTC) เพื่อซื้อ cryptocurrency และถือครองไว้ได้
