จากข้อมูล The Wall Street Journal การจัดการราคาของ Bitcoin ด้วย Bots นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่มีทางที่พวกมันจะหายไปจากตลาดได้เลย ปัญหานี้ยังคงมีการตรวจสอบอยู่เป็นระยะ ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อ้างถึง หลังจากปฏิเสธการใช้งาน Bitcoin ETF ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
Andy Bromberg ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง CoinList กล่าวว่า “ปัจจุบัน WSJ เป็น Bot ที่คุกคามไปทั่วทั้งตลาด”
คุณ Stefan Qin หุ้นส่วนผู้จัดการของ Virgil Capital ใช้ Bot ของตัวเองมาต่อสู้กับ Bot ที่อยู่ในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก ทางบริษัทได้สร้างฟังก์ชั่นการจัดการข้อผิดพลาด เพื่อตรวจจับกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะผิดกฎหมายในตลาดที่เป็น Wild West อย่าง Crypto
Bot เพียงตัวเดียวสามารถควบคุมตลาดได้อย่างไร ?
คุณ Qin เล่าถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ Virgil ผ่านสือว่า พวกเขาถูก Bot ก่อนกวนเป็นอย่างมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยพวกมันตั้งเป้าหมายไว้ที่ Ether เป็นหลัก พวกเขาจึงใช้มาตรการตรวจสอบราคาทุก ๆ นาที เพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างกำไรจากสกุลเงินดิจิทัล แต่ Bot ตัวนี้ทำให้พวกเขาขายได้ในราคาที่ต่ำกว่านักลงทุนคนอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด ไม่เท่านั้นยังจำกัดสิทธิในการซื้อของ Virgil ไม่ให้เกิดขึ้นอีกด้วย
การปลอมแปลงคำสั่งซื้อและการยกเลิกคำสั่งเหล่านี้เรียกว่า “การหลอกลวง (spoofing)” โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรู้สึกว่าอุปทานหรือความต้องการของสินทรัพย์สูงกว่าที่เป็นอยู่จริง ซึ่งตรงจุดนี้ผิดกฏหมายในตลาดฟิวเจอร์สและตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 2553 และมีข้อกล่าวหามานานแล้วเหมือนกันว่าสิ่งนี้กำลังลังเกิดขึ้นในตลาด cryptocurrency
การจัดการที่มีผู้ป้องกัน
ผู้สนับสนุน Bitcoin บางคนที่ไม่เห็นด้วยกับระเบียบข้อบังคับของ cryptocurrency ไม่ถือว่าการจัดการตลาดเป็นเรื่องผิดพลาดและสนับสนุนอย่างเปิดเผย
นักลงทุนนาม Kjetil Eilersten พัฒนาโปรแกรมที่เรียกว่า Trader Quatloo กล่าวว่า เขามองว่า WSJ เป็นการแก้ปัญหาในตลาด cryptocurrency ที่ไม่ตรงจุดนัก และจะเป็นการดีกว่าถ้ามอบเครื่องมือในการจัดการให้กับนักลงทุนรายย่อย เพื่อให้พวกเขาจัดการได้ด้วยตัวเอง เมื่อทุกคนสามารถจัดการได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีใครมาจัดการกับเรื่องนี้อีก
ที่มา : CCN
เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งมากค่ะ