หลังจากที่ กลต. ไทยได้อนุมัติกระดานเทรดคริปโตให้ถูกกฎหมายซึ่งตอนนี้มีอยู่ถึง 6 เจ้าด้วยกันที่ได้รับการอนุญาต ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็กำลังพิจารณาสร้างกระเป๋าคริปโตของประเทศเพื่อไว้ริบคริปโตที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย
รัฐบาลไทยเล็งเปิดกระเป๋าคริปโตแห่งชาติ
เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้พิจารณาที่จะจัดตั้งกระเป๋าเงินคริปโต
โดย นาย วิทยา นิติธรรม เลขานุการของปปง. ได้พูดในงานสัมนาที่พูดคุยกันเรื่องของอาชญากรรมของคริปโต และได้พูดคุยกันถึงวิธีจัดตั้งและป้องกันกระเป๋าเงินคริปโตของปปง. เพื่อยึดหรือริบเงินคริปโตจากแหล่งที่ผิดกฎหมาย
ณ ตอนนี้ยังไม่มีกฎหมายที่อนุญาตให้หน่วยงานกักหรือยึดเงินคริปโตรวมไปถึงความเป็นจริงที่ว่าไม่มีที่ให้เก็บของกลางถ้าเกิดยึดมาได้(มาฝากไว้กับแอดณะก่อนก็ได้ครับ) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมอาชญากรรมทางไซเบอร์แต่ไม่สามารถแตะต้องทรัพย์สินเหล่านั้นได้
ตัวอย่างคือ เมื่อต้นปีที่ผ่านมากองปราบปรามอาชญากรรมด้านเทคโนโลยีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จับกุมชาวดัทซ์ซึ่งต้องสงสัยว่าจะใช้เว็บไซต์ลามกอนาจารเด็กโดยร้อยเอกเค้าได้ให้สัมภาษณ์หลังการจับกุมว่า
พวกเราพบ Bitcoin ในกระเป๋าเงินคริปโตของเค้า แต่พวกเราก็ต้องปล่อยมันไว้แบบนั้นเพราะพวกเรายังไม่มีกฎหมายที่จะมารองรับการยึดของกลางที่เป็นคริปโต
การระบุตัวตนเป็นเรื่องท้าทายในยุคดิจิทัล
หลังจากที่สกุลเงินคริปโต 7สกุลหลักได้ถูกรับรองให้ถูกกฎหมายในประเทศไทย นายวิทยา นิติธรรมได้เคลมว่า “ปปง จะจัดตั้งมาตารการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตที่ได้รับอนุญาตจาก กลต.”
อย่างไรก็ตามเค้าได้กล่าวเสริมว่า “มันยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะจัดการผู้ประกอบการด้านคริปโตที่อยู่นอกระบบเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเหยื่อที่โดนหลอกให้โอนเงินคริปโตไปนั้นไปอยู่กับผู้ประกอบการเจ้าไหน”
นอกจากนี้รองผู้อำนวยการของสำนักงานอัยการสูงสุดได้กล่าวด้วยว่า “ปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลก็คือระบุตัวตนของคนทำธุรกรรมยากและหลักฐานที่ให้ศาลพิจารณาส่วนใหญ่จะไม่สามารถใช้โน้มน้าวผู้พิพากษาได้
source: newsbitcoin