สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Bitcoin Addict ทุกคน พักหลังๆมานี้ผมมักจะได้รับหลังไมค์มาบ่อยๆว่า ICO ตัวนี้ scam หรือเปล่าไม่เข้าตลาดการซื้อขายซักที พอผมได้เข้าไปช่วยดูก็พบว่ามันเป็นโปรเจค Blockchain ที่เข้าข่ายการหลอกลวง(จริงๆก็ scamเลยล่ะ) ก็ได้แต่เตือนและบอกเหตุผลที่ไม่ควรยุ่งถ้าเผลอลงทุนไปแล้วก็รีบนำเงินส่วนที่เหลือออกมาก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลย ทำให้ผมเลยอยากที่จะเขียนบทความเตือนมือใหม่ที่เริ่มสนใจในการลงทุน ICO สำหรับ 4 วิธีการสังเกตุว่า ICO นั้นๆคือ scam (แปลว่าต้มตุ๋นนะครับ) กันครับ
1. Website ไม่น่าเชื่อถือ
เรียกได้ว่าหน้าเว็บถือเป็นหน้าต่างของ ICO กันเลยครับ เพราะคุณพี่จะมาระดมทุนเงินเป็นสิบล้าน ร้อยล้านแต่ทำเว็บยังกับเด็กประถมทำมันก็ไม่สมควรจะได้รับเงินจากนักลงทุนแล้ว และส่วนใหญ่เว็บพวกนี้จะมีคลิปวิดีโอ youtube ที่ดูงงงวยไม่เกี่ยวอะไรกับโปรเจคแปะอยู่ให้มันเท่ๆ
รวมถึงพวกที่เอา Quote คนดังมาใส่ในเว็บให้นักลงทุนหลงคิดไปว่า “คนดังเค้ายังชมโปรเจคนี้เลย น่าลงทุนแท้ๆ” นอกจากนี้เรายังสามารถพิจารณาถึงวิธีการสมัครเป็นสมาชิกในเว็บได้ โดยปกติผมจะลองด้วยการใส่ email มั่วๆสมัครเข้าไปและถ้ามันไม่ต้องยืนยัน email ใช้เมลมั่วๆเข้าไปทำการซื้อขายได้ละฟันธงได้เลยครับว่า scam (ยิ่งไม่มี KYC ต้องหนีให้ห่างเลยครับ)
2. ลักษณะการระดมทุน
อันดับต่อมาที่เราจะมาจับผิดกันต่อคือ ลักษณะการระดมทุนของโปรเจค ICO นั้นๆ อันดับแรกให้เราลองดูก่อนว่ามี Referral program มั้ย ได้เยอะขนาดไหน? มีลักษณะที่ว่าชวนคนมาลงต่อเราเยอะๆแล้วจะได้เงินเพิ่มขึ้นรึเปล่า? คล้ายๆแบบ MLM แต่ปกติเรายังจะได้สินค้ามาขายต่อหรือมาใช้เองก็พอไหวถ้าขายไม่ออก แต่นี้เราไม่ได้อะไรเลยนอกจากเหรียญที่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรใครจะมารับ รวมถึงพวกโบนัสเยอะๆแบบรอบแรกขาย 0.3$ รอบสุดท้าย 1.5$ ค่อนข้างจะอันตรายต่อให้คุณได้รอบแรกก็อาจจะขาดทุนได้ (ประสบการณ์ตรงจาก ICO ที่โบนัสเยอะๆขนาดลงรอบแรกยังไม่รอด T_T) ยิ่งถ้ารอบสุดท้ายไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ต่อให้เป็นโปรเจคที่ดีแค่ไหนก็มีความเสี่ยงจะโดนเทจากคนลงทุนก่อนหน้าได้อยู่ดี
** เกร็ดความรู้เล็กน้อย ส่วนใหญ่คนจะคิดว่าเฮ้ยมันมีเหรียญบน Blockchain จริงๆนะเพราะบรรดาโปรเจคเหล่านั้นเอามาอ้างกันเป็นปกติ ผมอยากจะบอกไว้เลยครับว่า แม่งสร้างโคตรง่าย How to เกลื่อนไปหมด ถ้าบน Wave Network ต้นทุนไม่ถึง 300 บาททำ 3นาทีเสร็จ ถ้าเป็นบน Ethereum ต้นทุนประมาณ 1,000 บาททำยากกว่าหน่อย

3. Whitepaper หรือเอกสารหน้าขาว!!!
ถ้าผ่านด่านด้านบนมาได้แล้วเรามาลองดูรายละเอียดของโปรเจคกันโดยปกติเราอาจจะไม่ต้องสนใจ Concept มาดูกันที่ Road Map กันก่อนโดยปกติโปรเจค ICO scam ทั้งหลายจะเอาเดือนที่จะได้ขึ้นกระดานเทรดเข้ามาอยู่ใน Road Map อย่างเช่น “จะลิสต์ Binacne เดือนที่ 6ของปี 2018” คือบอกเลยครับว่ามันผิดกฎของเว็บเทรดแทบจะทุกเว็บ เต็มๆที่เอาชื่อเค้ามาอ้างแบบนี้ ที่พวกนี้เอาขึ้นก็เพราะจะเอามาหลอกนักลงทุนว่า “เฮ้ยเดี๋ยวอั๊วก็จะเอาเหรียญเข้ากระดานเทรดดังๆแล้วนะ สบายใจได้” สบายใจว่าบินแน่นอนมากกว่าครับแบบนี้ รวมถึงถ้าพวกไม่โชว์หน้าตาของทีมงานว่ามีตัวตนจริงๆเรายิ่งต้องหนีให้ไกลเพราะถ้ามันต้มตุ๋นเรามา เราจะไปเอาผิดจากใครเพราะขนาดมีหน้าตาแล้วยังฟ้องกันยากเลยเรื่องแบบนี้ (บางทีพวกนี้ก็เอารูปปลอมๆมาแอบอ้างเป็นคนในทีมงานก็มีเยอะเหมือนกันครับ)
Concept ก็เป็นอะไรที่สำคัญเหมือนกันถ้าแบบเป็นพวกสาย Lending แบบ Bitconnect ก็หนีให้ห่างครับโอกาสเสียเงินมีสูงมาก รวมถึงโปรเจคอะไรก็ตามที่บอกว่า การันตีคืนทุนใน 90 วัน อะไรแบบนี้ คือ ห้ามเด็ดขาด โดยปกติ ICO ที่ดีจะไม่มารับประกันอะไรแบบนี้แน่นอน และจะมีบางพวกที่ยังงงๆใน Whitepaper ของตัวเองหรือไปก๊อปเค้ามาทั้งดุ้นเห็นแบบนี้แล้วก็อย่าไปยุ่งเลยครับ
4. Social Media และ Community
คืออาจจะสำคัญไม่มากแต่ก็เป็นจุดที่ทำให้โดนหลอกกันได้โดยเฉพาะ Social media เช่น Facebook, Twitter แบบโชว์ว่ามีไลค์เยอะๆเป็นพันเป็นหมื่น คือบอกกันตรงนี้เลยครับว่า มันปั้มได้ เป็นการลงทุนอีกขั้นของเหล่านักต้มตุ๋นที่ไปซื้อไลค์กัน เราอย่าเอาตรงนี้มาอ้างอิงเด็ดขาด (โปรเจคดีๆมันยังปั้มกันเลย) นอกจากนี้ช่องทางการสื่อสารระหว่างเจ้าของและนักลงทุนที่เรียกว่า Community ก็สำคัญเช่นแอพ Discord, Telegram เพราะเวลาเรามีข้อสงสัยอะไรก็สามารถเข้าไปสอบถามเจ้าของโปรเจคหรือแทงกันได้แบบตรงๆ เพื่อให้ทีมงานมาตอบคำถามให้นักลงทุนมีความมั่นใจในตัวโปรเจคมากยิ่งขึ้น (บางโปรเจคแบบระดมทุนเสร็จแล้วปิด Community ทิ้งเลยก็มี)
ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับวิธีการดู ICO ว่า scam หรือไม่ขั้นต้นที่จะทำให้เพื่อนๆที่ยังเป็นมือใหม่ในวงการนี้ปลอดภัยพอสมควรเลย หรือถ้ามีใครมีคำถามสงสัยว่าตัวนี้ scam มั้ยก็สามารถเข้ามาสอบถามได้ที่ Community ของพวกเราจะมีบรรดาแอดมินและเพื่อนๆมากประสบการณ์คอยตอบคำถามกันเป็นประจำแบบฟรีๆ ด้วยความห่วงใยนักลงทุนในไทยจากทีมงาน Bitcoin Addict 🙂
ข้อมูลมีประโยชน์มากครับ