สวัสดีครับวันนี้ แอดมินณะจะขอสรุปความฟินกับพิซซ่าฟรีและเนื้อหาภายในงาน Bitcoin Addict First Meet-up ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่เรียกได้ว่า อิ่มอร่อย สนุก ได้ความรู้แบบจัดหนักจัดเต็มรวมไปถึงของรางวัลติดไม้ติดมือที่ไม่มีใครต้องกลับบ้านมือเปล่า!!! บรรยากาศและเนื้อหาภายในงานเป็นอย่างไงเรามาดูไปพร้อมๆกันได้ในบทความนี้เลยครับ 🙂
ความเป็นมาของผู้ก่อตั้ง Bitcoin Addict
เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวได้อย่างสวยงามสำหรับ พี่คิม ผู้ก่อตั้ง Bitcoin Addict ซึ่งเป็น community ในวงการคริปโตของประเทศไทยที่เข้มแข็งที่สุด ซึ่งมีการแจกรางวัลกันตั้งแต่เปิดงานโดยให้เพื่อนๆร่วมสนุกกันหาตัว Admin Bitcoin Addict ที่มีคำใบ้แรกจากรูปสมัยยังวัยรุ่น น้ำหนักลบไปจากปัจจุบันประมาณ 10กิโลกรัม แต่ก็ยังไม่พ้นสายตาอันแหลมคมจากเพื่อนๆอยู่ดี หาตัวเจอตั้งแต่คำใบ้แรก พร้อมรับเงินรางวัลไปถึง 10 ONT เรียกได้ว่าอิจฉาไปตามๆกัน
เรื่องราวความเป็นมาจากผู้ก่อตั้ง Bitcoin Addict นั้นเรียกได้ว่า ล้มลุกคลุกคลานมาก็มาก ตั้งแต่เริ่มสนใจในการขุดครั้งแรกด้วยคอมบ้านๆที่ทำรายได้ถึง 91 บาทต่อวัน!!! ทำให้แอดพบว่ามันทำเงินได้จริงๆเลยเริ่มตัดสินใจลงทุน Built up การ์ดจอทำให้รายได้สูงขึ้นมาเป็นวันละ 1000 บาท และคิดอยากจะแชร์ความรู้ของตัวเองให้คนอื่นที่สนใจจึงตัดสินใจทำ facebook และเว็บไซต์ขึ้นมา ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของ Bitcoin Addict เลยครับ แต่ดีใจกับกำไรได้ไม่นานก็เจอพิษจีนตบคว่ำเหลือเพียงวันละ 300บาท เท่านั้น เรียกได้ว่าความหวัง 3เดือนคืนทุนสูญสลายภายใน3วัน แอดของเราก็เลยมองหาหนทางที่ทำเงินจากคริปโตให้ได้เพิ่มขึ้น จึงลองตัดสินใจเป็นเทรดเดอร์จำเป็น ที่ไม่มีความรู้เรื่องกราฟเลยแม้แต่น้อยทำให้ความดอยบังเกิด ติดลบ50%เพียงชั่วข้ามคืน ลองไป 1หมื่นตื่นมาเหลือ 5พัน ทำให้แอดของพวกเราเริ่มคิด “เฮ้ยมันไม่น่าใช่ทาง เราก็ยังมีงานประจำ ไม่มีเวลาศึกษาและตามมอนิเตอร์กราฟขนาดนั้น”
ก็เลยมองหาหนทางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดเพื่อให้อยู่รอดในตลาดได้และตอนนั้นก็พบกับคำว่า ICO ที่แอดมองแล้วคิดว่ามันเป็นอะไรที่จะมาเปลี่ยนโลกและเราสามารถทำกำไรได้ หลังจากที่ลองผิดลองถูกก็ค้นพบว่านี้ล่ะคือแนวทางของตัวเองจึงเน้นลงทุนใน ICO เป็นหลักและนำกำไรที่ทำได้มาหาเหรียญที่มีศักยภาพมาเข้าพอร์ตต่อไป แต่ทว่าหนทางนั้นช่างแสนยากเย็น ICO ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด การที่เราจะหา ICO ที่ดีๆซักตัวนั้นถ้าหาเพียงคนเดียวคงเป็นไปได้ยากจึงลองทำ Telegram channel ขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ แชร์ ICO อัพเดทข่าวสารกัน ในวันที่ 5 ตุลาคม 2017 และเติบโตมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และยังมีข้อคิดดีๆจากแอดด้วยว่า
“ผมไม่ได้เก่งจนได้กำไรจาก ICO ทุกตัวที่ลง มีหลายตัวที่ขาดทุน แต่ทว่าตัวที่กำไรนั้นมันสามารถกลบการขาดทุนที่เกิดขึ้นไปได้จนหมด ผมเชื่อว่าถ้าเรามีการบริหารเงินที่ดีพอเราก็สามารถทำกำไรจาก ICO ได้ไม่ยากครับ”
Panel Discussion
ในช่วงของการ Discussion กันเราได้มีเหล่าบรรดาแอดมินทั้ง 4 คนขึ้นมาถกประเด็นร้อนในหัวข้อ กระแสของ ICO หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เรียกได้ว่าเข้มข้นถึงใจเพราะนอกจากจะแค่แชร์มุมมองแล้วยังมีความรู้มากมายที่มั่นใจได้เลยว่าเพื่อนๆหลายคนไม่เคยรู้มาก่อน โดยผมขอสรุปเป็นสาระสำคัญดังนี้
สรุปมุมมอง ICO ของเหล่าบรรดาแอดมิน ความเห็นจากแอดมินจะเห็นตรงกันว่าในปีนี้ยังคงจะเป็นปีของ Infrastructure platform อยู่เพราะเนื่องจากทาง Ethereum ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา Scaling ได้ซักที ทำให้ก่อเกิด Eth killer มาอย่างต่อเนื่องและทำให้ผู้คนเข้าไปลงทุนและเก็งกำไรในโปรเจค Infrastructure ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างจากปีที่แล้วก็จะเป็น Tomochain, Zilliqa, Elastos, Credits, Zebi ที่ขนาดถึงแม้โปรเจคที่โคตรจะ Scam อย่าง Credits ที่แอดภารโรง ของเราอ่าน Wppและ Code ทุกบรรทัดรวมถึงลองเล่น Testnet จนค้นพบว่ามันคือ SQL และ Scam อย่างไม่ต้องสงสัยแต่มันยังมูนได้ถึง 6-9เท่า ทำเอาแอดภารโรงเราหงายเงิบไปตามๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความเห็นเพิ่มเติมจากแอดมินณะว่า ICO แนว Infrastructure platform นั้นเริ่มออกมากันเกลื่อนจนเกินไปทำให้เราอาจจะต้องเลือกตัวที่โดดเด่นและมี Road map ที่ดีจริงๆถึงจะน่าลงทุนและยกตัวอย่างล่าสุด Hero node โปรเจคที่เกี่ยวกับ Infrastructure platform ที่อยากให้ลองมองว่าถ้าเกิดโปรเจคนี้ไม่มี Refund ราคามันจะเป็นยังไง
หลังจากที่แชร์มุมมองกันไปพอสมควรงานนี้ได้มีคำถามเพิ่มเติมว่า เหรียญโปรดของแอดมินแต่ละท่านคือเหรียญไหน เริ่มจาก ผู้ก่อตั้งของเรากันก่อน
ผมชอบ Ontology ครับไม่ใช่เพราะแจกฟรีเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความที่มันเป็นโปรเจค Infrastructure มาพร้อม Smart contract เป็นของตัวเองพร้อมทั้งจุดเด่นอย่าง Trust network ที่ทำให้การยืนยันตัวตนเป็นเรื่องง่ายและสามารถประยุกต์ใช้กับ Dapp ต่างๆได้ และ Token economy ที่เรียกว่าก๊อปปี้ข้อดีของ NEO แบบเต็มๆ โดยถ้าเราถือ ONT จะได้รับ ONG ที่เปรียบเสมือนเป็น passive income ที่ใครๆบนโลกก็ต่างมองหา และยังเพียบพร้อมไปด้วยทีมงานและพาร์ทเนอร์ขั้นเทพ โดย Mainnet กำลังใกล้จะเปิดตัวแล้วใน Q2 ปีนี้ แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับในส่วนของราคาที่พุ่งมาสูงขึ้นอย่างมาก เพราะ Token เกือบทั้งหมดอยู่ในมือเจ้า มีเพียง Airdrop ที่แจกให้ผู้โชคดีเพียง 2%จาก Token ทั้งหมด นั้นหมายความว่าอะไรเพื่อนๆน่าจะทราบกันนะครับ 😛
ส่วนแอดภารโรงของเราชอบในตัวของ Quarkchain ซึ่งเป็น ICO ที่กำลังจะเปิดระดมทุนในเร็วๆนี้ เพราะเป็น ICO ที่เขียน Code ขึ้นมาใหม่เกือบทั้งหมดไม่ก๊อปปี้ Ethereum มาเหมือนอย่างโปรเจคอื่นเช่น Wanchain (ในส่วนของ Private Code อาจจะมีทีเด็ดซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้ไม่มีใครรู้) โดย Quarkchain มีเพียงแค่ Code นิดเดียวเท่านั้นที่ก๊อปมาทำให้ผมประทับใจเป็นอย่างมาก และด้วย Concept Sharding ที่กำลังฮิตติดตลาดอย่างรุ่นพี่ Ziliqa ที่ยืนราคาได้สูงกว่า ICO ถึง 37เท่ายิ่งทำให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก รวมถึงแอดภารโรงของเราได้เข้าไปลองทดสอบ Testnet ของ Quarkchain ที่ทำได้น่าประทับใจ ทั้งหมดทั้งมลนี้ทำให้แอดภารโรงเราชื่นชอบ ICO ตัวนี้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีคำถามที่น่าสนใจจากเพื่อนๆระหว่างการ Discussion ด้วยว่า ถ้าเกิด Ethereum สามารถแก้ไขปัญหาด้าน Scability ได้จะทำให้โปรเจค Ethereum Killer ตัวอื่นจบสิ้นเลยมั้ยครับ ซึ่งแอดมินภารโรงก็ได้ให้ความเห็นดังนี้
“ผมไม่คิดว่าโลกคริปโตมันจะเป็นแบบ One or nothing ที่จะมีผู้อยู่รอดเพียงแค่เจ้าเดียว เปรียบเสมือนในวงการมือถือที่มีเจ้าตลาด 2เจ้าคือ Android กับ IOS ที่ก็ยังขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนานแต่ก็ไม่แน่ว่า Ethereum ในตอนนี้เป็นเพียงแค่ Symbian ที่รอคอย IOS มาชิงบัลลังค์ก็เป็นได้”
นอกจากโปรเจคจากฝั่ง Infrastructure ที่น่าสนใจแล้วยังมีการพูดถึงโปรเจคฝั่ง Dapp ที่มีศักยภาพและจะมาแก้ไขปัญหาขนาดใหญ่ของ Smart contract นั้นก็คือ Quantstamp ที่เป็นโปรเจค The smart contract automated auditing platform ที่แอดมินณะ Hodl มาตั้งแต่แรก โดยแอดมินณะได้ให้ความเห็นว่า ตั้งแต่เริ่มต้นที่มีการใช้ smart contract มาระดมทุน ICO ก็มีช่องโหว่ที่เกิดจากการเขียน Code มาอย่างต่อเนื่องทำให้เหล่าบรรดา Hacker ฉวยโอกาสนี้ลักลอบเอาเงินกันไปแบบฟรีๆ ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าการ Audit smart contract เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆเนื่องจาก Smart contract ไม่สามารถแก้ไขได้อีกหลังจากทำการ Deploy ในระบบ และโปรเจค Quantstamp ถือได้ว่าเป็น First mover ซึ่งจะมีการพัฒนา Libary ของ Codeได้นำหน้ากว่าเจ้าอื่นรวมถึงได้รับความไว้วางใจจาก Binance ที่ให้ Audit ERC20 token ก่อนที่จะลิสต์ขึ้นกระดานเทรดและยังแก้ไขปัญหา Scability แบบ Decentralized ที่ใครๆก็สามารถเป็น Miner สำหรับการ Audit smart contract เพื่อแก้ไขปัญหาที่จะมีการใช้งานมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตโดย Mainnet จะออกในช่วงเดือนกันยายนนี้
และที่ขาดไม่ได้คือความเห็นของแอดมินคอร์กี้สาวสวยประจำกลุ่ม ที่มองเห็นถึงศักยภาพของ AI ที่จะเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคตอันใกล้ ทำให้แอดมินคอร์กี้ชื่นชอบโปรเจค DeepBrain Chain จากทางฝั่งจีนที่จะเข้ามาลดต้นทุนการพัฒนาศักยภาพของAI ด้วยระบบ decentralize AI computing เพราะอะไรน่ะเหรอ!? เพราะว่าการจะทำให้ AI ออกมามีศักยภาพ 1ตัวต้องใช้เงินทุนปริมาณมหาศาล อย่างตัว Alpha Go! AIเล่นโกะระดับโลกที่ได้รับการยอมรับว่าไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถต่อกรได้อีก ต้องใช้งบประมาณสูงถึง $35m ทำให้ DeepBrain Chain อยากที่จะใช้ระบบBlockchain พัฒนาเข้ากับคอนเซปต์ “การให้ยืม Computing power จากคนทั่วไปสู่บริษัทผลิต AI” โดยต้นทุนจะสามารถลดดได้สูงสุดถึง 70% เรียกได้ว่าจะทำให้เกิดการแข่งขันกันด้านราคากันอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ใช้งานก็จะมองหาของดีราคาถูกอยู่เสมอ และนอกจากนี้ DeepBrain Chain ยังนำเสนอเครื่องขุดที่พึ่งเปิดตัวไปเร็วๆนี้โดยจะนำมาใช้เข้ากับ Mainnet ตัวเองใน Q4 ที่จะถึงนี้ด้วยค่ะ
ERC20 Token แท้จริงแล้วคืออะไร!?
ที่จริงแล้วมีเกร็ดความรู้ สาระมากมายในงาน Bitcoin Addict First Meet-up แต่ว่าในบทความนี้ผมจะขอเลือกหัวข้อนี้ ที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญแต่ทุกคนยังเข้าใจผิดกันอยู่ (รวมถึงผมด้วย) จากแอดภารโรง
จริงๆแล้ว ERC20 Token เนี่ยมันไม่ใช่ Token นะครับมันเป็นเพียงการเขียนฟังค์ชั่นลงใน smart contract ก็เท่านั้นนั้นหมายความว่าจริงๆแล้ว Wallet เราไม่ได้ถือ Tokenอยู่ Token ทั้งหมดมันอยู่บน Smart contract ของแต่ละเจ้า และเจ้า ERC20 Token เนี่ยจะประกอบไปด้วยฟังค์ชั่นมาตรฐาน 6อย่างที่ผู้จัดทำ Code จะสามารถเพิ่มฟังค์ชั่นที่ 7,8 ลงไปได้เช่นการเขียนเพื่อให้สามารถทำการ Refund เงินที่ได้จากการระดมทุน ICO คืนได้อย่างเคสล่าสุดของ Hero node หรือถ้าจะเลวร้ายกว่านั้นคือมีฟังก์ชั่นที่ดูด Token ของ Holder กลับคืนมาทั้งหมดก็สามารถทำได้
วิธีวิเคราะห์ ICO และหวยจาก Mandy
พิเศษสุดๆกับในงานที่ได้พบกันแบบสุด Exclusive กับ Mandy กูรูชื่อดังในโลกคริปโตที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก โดยงานนี้ Mandy ไม่ได้มาแจกรางวัลเพียงอย่างเดียวเค้ามาพร้อมกับแนวทางของ ICO และหวยที่ใครๆต่างรอคอย

เริ่มด้วย Mandy มาเล่าประสบการณ์ที่เ
หัวข้อที่ Mandy ให้ความสำคัญในการลงทุน ICOโดยจะไล่จากมากไปน้อยจะมีดังนี้ครับ
- Hardcap เป็นส่วนที่แมนดี้ให้ความสนใจมากที่สุดเพราะโปรเจคที่ Cap น้อยๆจะสามารถเติบโตได้เร็วหลายเท่ามากกว่าโปรเจคที่ Cap เยอะๆ นอกจากน่ี้ยังหมายถึงความสมเหตุสมผลในการระดมทุนเพราะมีหลายๆโปรเจคที่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะเรียกเงินเยอะขนาดนั้นไปทำไม
- Road Map เป็นอีกตัวแปรสำคัญรองลงมาเพราะโปรเจคที่มี Road Map สั้นทำงานได้ไวหมายถึง Token ของเราที่ได้มาก็จะมีประโยชน์และความต้องการเร็วขึ้น และโอกาสที่เงินจะจมก็จะน้อยกว่าเพราะมีข่าวมาให้เล่นเสมอๆ ต่างจากโปรเจคที่ Road Map ต้องรอเป็นชาติกว่าจะเสร็จ
- MVP/Github ข้อนี้ใครไม่ใช่สาย Dev ก็ลำบากหน่อยว่าจะแยกของดีกับของไม่ดียังไง เพราะอย่าง Mandy เองยังพออ่านภาษาคอมพิวเตอร์ได้บ้าง แต่นี้แหละที่หมายถึงว่าเวลาลงทุนถ้าคุณอยู่คนเดียวไม่มีทางหรอกที่คุณจะรู้เรื่องครอบคลุมไปซะหมด ทำให้ต้องมีทีมหรือเพื่อนที่คอยสนับสนุน Mandy แนะนำว่าให้เพื่อนที่เป็น Dev ช่วยดูให้หรือลองหารีวิว Code จากเว็บรีวิวต่างประเทศที่เริ่มมีมากขึ้นก็จะทำให้เรามองเห็นภาพมากขึ้น (แอดณะแนะนำ cryptobriefing.com ครับ)
- Team and Advisors โปรเจคที่จะสำเร็จได้ก็ต้องมีทีมงานที่เก่งพร้อมที่ปรึกษาชั้นนำและตรงสายงาน ลองจินตนการถึงโปรเจคที่ทำด้านการเงินแต่ทั้งทีมไม่มีใครที่มีประสบการณ์ด้านการเงินเลย แต่มีแค่ไอเดียที่เหมือนจะดี มันจะเป็นอะไรที่เกิดยากมากๆเพราะคนนอกวงการย่อมไม่เข้าใจปัญหาได้ดีเท่ากับคนภายในวงการ แต่ถ้ามีที่ปรึกษาหรือพันธมิตรที่ตรงจุดก็ถือว่าผ่านครับ
- Token Adaptability หมายถึงประโยชน์การใช้งานของ Token เพราะถ้าเหรียญมันไม่ค่อยมีประโยชน์ในโปรเจคใช้ต่อยอดไม่ค่อยได้ แล้วเราจะถือ Token นี้ไว้ทำไม จริงมั้ยล่ะครับ
- Token structure เป็นส่วนของ %Token ที่นำมาขายจากทั้งหมดและโบนัสเพราะถ้า %ที่นำมาขายน้อยไปอยู่กับทีมอะไรซะเยอะถ้าวันหนึ่งที่เค้าเทขายใส่เราได้ เรานี้คืออาจจะซวยกันเลย และโบนัสสำหรับนักลงทุนเงินหนา สถาบันต่างๆที่ซื้อก่อนที่มันจะฮิตติดตลาดเค้าก็อาจจะเทใส่เราในราคาขาดทุุน ICO ได้อย่างง่ายๆแต่เค้ายังได้กำไรอยู่นั้นจะทำให้นักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นครับ
และยังมี 4Strategies ลับที่ Mandy ใช้ในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
- Research ต้องหมั่นขยันหาความรู้ เสาะหาโปรเจคดีๆและเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง
- Cash out เมื่อมีกำไรต้องนำกำไรออกมาบ้างเพราะตลาดคริปโตมีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย, แฮ็คเกอร์, ความผันผวน
- Hedge 10-30% to BTC ETH USD ในข้อนี้หมายถึงกระจายความเสี่ยงไปถือสกุลเงินหลักอย่าง BTC, ETH, USD เพื่อเอาไว้ใช้ช้อนเหรียญที่เราชอบและรักษาสภาพคล่องให้กับพอร์ต
- Identify short and long term coin แยกให้ออกว่าเหรียญในคือเหรียญถือยาว เหรียญไหนคือเหรียญถือสั้น อาจจะเป็นการดูจากความ Hype ในตลาดและเทรนด์ที่กำลังจะมาในอนาคต
และช่วงที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงนั้นก็คือ หวยจาก Mandy ที่ Mandy ทิ้งท้ายไว้ให้ 6 ตัวเรียงลำดับตามนี้ Quarkchain, Phantasma, Edenchain, Nex, Atonomi, Open Platform
และยังมีเซอร์ไพร์สพิเศษจาก Coinman ที่ให้เพื่อนๆมาเข้าร่วมกิจกรรมกันเพื่อชิง 50,000 HOLO ที่บอกได้เลยว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความบันเทิงและเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆและทีมงานแบบสุดๆ ถ้ายังไงเราลองมารับชมคลิปของกิจกรรมสุดท้ายในวันงานครับ
ฟุตบอลสุดมันส์
นอกจากงาน Meet-up หลักแล้วเรายังมีงานฟุตบอลที่จัดขึ้นในวันที่ 20 พฤษภาคม เพื่อมาเตะ Mandy ให้ยับ งานนี้ทีม Bitcoin Addict เอาชนะไปได้อย่างสวยงามที่ 4ประตูต่อ2 เรียกได้ว่าขาดลอย!!! และทีมชนะได้เงินรางวัลไปรวมกว่า 12,000 บาท ส่วนทีมแพ้ยังได้เงินรางวัลปลอบใจไป 5,000 บาท และหลังจบการปะทะแข้งกันทางทีมงาน Bitcoin Addict ก็ได้พานักกีฬาและกองเชียร์ไปเลี้ยงกันต่อที่ทั้งอิ่มอร่อยและได้พูดคุยกันแบบสุด exclusive กับบรรดาแอดมินและแมนดี้ ที่บอกเลยว่าเสียดายแทนคนที่ไม่ได้มาจริงๆ 😛
ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่กับบรรดา Homeless Admin ที่ได้ทั้ง ความสนุก มิตรภาพ ความรู้ที่อัดแน่นแบบไม่มีกั๊ก รวมถึงพิซซ่าอร่อยๆที่คุณแม็กซ์ Carboneum ได้มาเป็นสปอร์นเซอร์ให้กับพวกเรา งานครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเลยถ้าขาดเพื่อนๆที่คอยสนับสนุนและบรรดาแอดมินที่ดูแลทำให้เกิด Community คริปโตที่แข็งแกร่งแบบนี้ และเตรียมพบกันใหม่ในงานถัดไปนะคร้าบบบบ
***สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่มาเข้าร่วมงาน meet up วันนี้อย่าลืมนำ email ที่ลงทะเบียนผ่าน event pop ไป whitelist kyc ของโปรเจค carboneum ที่ลิ้งด้านล่างเพื่อรอรับ Airdrop มูลค่า 88 tokens นะครับ https://carboneum.io/ico/
Telegram Carboneum :pray:
https://t.me/carboneum_c8
และสำหรับในส่วนของกิจกรรมเช็คอินลุ้นรับ ONT จำนวนทั้งหมด 35 tokens ทีมงานจะประกาศผู้โชคดีที่มี caption หรือรูปโดนใจทีมงานที่สุด 5 รางวัลในสัปดาห์หน้า
โดยแบ่งรางวัลเป็นดังนี้
– 5 ONT จำนวน 3 รางวัล สำหรับคนที่ เช็คอิน facebook พร้อม caption แล้วติด hashtag คำว่า #bitcoinaddictmeetup
– 10 ONT จำนวน 2 รางวัล สำหรับคนที่ เช็คอิน facebook พร้อม caption บวกกับโพสรูปในงานเท่ๆ แล้ว hashtag คำว่า #bitcoinaddictmeetup
สำหรับรางวัลอื่นๆที่ผู้โชคดีได้รับภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น ONT , NEO , HOLO จะทยอยแจกภายในสัปดาห์หน้าเช่นกันครับ เพื่อนๆที่มาร่วมงานยังมีเวลาให้คิด caption กันอยู่นะครับ
และรบกวนเพื่อนๆชอบตอบแบบสอบถาม(คลิกเลย) ด้วยนะครับเพื่อให้ทีมงานปรับปรุงงานในครั้งหน้าได้ดียิ่งๆขึ้นไป ขอบคุณครับ