แนวทางการจัดการคริปโตจาก 2 ประเทศตัวอย่าง ที่ใครๆก็ควรทำตาม!?

0
1816

Cryptocurrencies เป็นเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่เริ่มได้รับความสนใจไปทั่วโลก มีทั้งประเทศที่ให้การสนับสนุนและประเทศที่เราแค่ถือ Crypto Wallet เข้าไปก็อาจจะติดคุกหัวโตได้ ส่วนในไทยก็มีสมาคม Blockchain association เกิดขึ้น โดยล่าสุดได้มีการวิงวอนกับภาครัฐให้ออกกฎหมายที่สมเหตุสมผลและเป็นมิตรกับคริปโต และประโยคที่พูดถึงอยู่บ่อยครั้งก็คือการออกกฎหมายคริปโตที่เป็นมิตรจะสร้างผลประโยชน์มากมายให้กับประเทศ แต่สร้างแบบไหนล่ะ? ตัวอย่างเป็นยังไง? วันนี้ผมก็จะขอยกตัวอย่าง 2 ประเทศเล็กๆที่เป็นมิตรกับคริปโตและเกิดประโยชน์ให้กับประเทศของพวกเค้ากันครับ ซึ่งผมก็คาดหวังให้ประเทศไทยนำมาเป็นแบบอย่างในอนาคตครับ

ก่อนอื่นเรามาลองดูแผนที่คร่าวๆว่าภาพรวมของทั่วโลกเกี่ยวกับคริปโตเป็นยังไงบ้างครับ

map.jpg

  • ซึ่งสีีเขียวหมายความว่าเป็นประเทศที่ยังเป็นมิตรกับคริปโตอยู่ไม่มากก็น้อย
  • สีเหลืองหมายความว่าเป็นประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน มีความเห็นกลับไปกลับมาเกี่ยวกับคริปโต
  • สีแดงหมายความว่าห้ามโดยเด็ดขาด การพกกระเป๋าเงินคริปโตเข้าไปอาจจะติดคุกหัวโตได้
  • สีเทาคือประเทศที่เทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงทั่วทุกคน

แล้วการที่ประเทศเล็กๆที่เป็นมิตรกับคริปโตแบบสุดๆมีผลดีอย่างไรล่ะ?

เรามาดู 2 ประเทศล่าสุดที่เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้เข้ามาให้ความสนับสนุนกันนะครับ

Malta

ในสมัยที่ Online gaming/gambling ยังไม่ได้รับการรับรอง Malta เป็นประเทศแรกๆที่ออกกฎหมายมารองรับและทำให้อยู่ในกรอบรวมถึงเรื่องของ Audit, License, Tax ที่เป็นมิตรและโปร่งใส ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างงานให้แก่คนในประเทศและทำให้ GDP สูงขึ้นอีกด้วย

โดยในครั้งนี้ก็เช่นกัน Malta มองเห็นโอกาสที่ดีสำหรับคริปโตเฉกเช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านมา จึงเตรียมพร้อมที่จะเป็น European Hub สำหรับคริปโต โดยกฎหมายที่ออกมาจะเป็นมิตรกับ ICO และนักลงทุนซึ่งทุกอย่างจะโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีการ Audit อย่างสม่ำเสมอรวมถึง Smart contract ที่ต้องมีการ Audit ตรวจหาข้อผิดพลาดของ Code (ซึ่งเร็วๆนี้ทาง Binance ก็มีการออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้ให้ Quanstamp ทำการ Audit Token แบบ ERC20 ทั้งหมดก่อนที่จะขึ้นกระดานเพื่อความปลอดภัย)

bnbqsp.PNG

ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้ Binance ได้เข้ามาวางรากฐานและลงทุนใน Malta โดยจุดประสงค์หลักๆคือการเปิดคู่เทรดเทียบสกุลเงิน Fiat จริงๆแต่ยังไม่ถึงขั้นจะเทรดคู่กับ USD ต้องจับตาดูต่อไปว่าสกุลเทรดคู่ Fiat คู่แรกของ Binance จะเป็นอะไรแต่ผมคาดว่าคงไม่พ้น Euro ครับ และจากการเปิดตัวของ Binance ทำให้มีผู้สนใจในการจะเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศ Malta ไม่ว่าจะเป็น Bitfinex หรือเหรียญขาปั่นอย่าง Tron ก็อยากเข้ามาร่วมแบ่งเค้กชิ้นนี้เหมือนกัน

Bermuda

หลังจากข่าว Malta ออกมาไม่นานนัก ประเทศ Bermuda ก็ได้ออกมาประกาศถึงกฎหมายที่เป็นมิตรกับคริปโตและพร้อมที่จะเป็น Blockchain Innovation Hub หลังจากประกาศ 2 อาทิตย์ ไม่รู้พี่ Binance ไปคุยอะไรกันตอนไหน ล่าสุดได้ลงสัญญา MOU กับรัฐบาลBermuda พร้อมลงทุนเงินจำนวน 15ล้าน$ไปกับการพัฒนามหาวิทยาลัยในการสอน Blockchain ให้กับคนในประเทศผ่านมูลนิธิ Binance และอีก5ล้าน$เพื่อสร้างบริษัท Blockchain ในประเทศผ่าน Binance Labs รวมถึงจะเป็นการสร้างงานจำนวนมากให้กับคนในประเทศ

โดยรายงานล่าสุดพบว่าผลประกอบการของ Binance เรียกได้ว่าสุดยอดเลยทีเดียวหลังจากที่เปิดได้เพียง 8เดือนและมีพนักงานเพียง 100 คนแต่สามารถทำกำไรได้มากกว่าธนาคารรายใหญ่ในประเทศเยอรมันนีที่เปิดมาแล้ว 146ปีและมีพนักงาน 100,000 คน ทำให้หลายๆประเทศเริ่มให้ความสนใจในตัวคริปโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในฝั่ง South East Asia

ไทยถูกจัดอยู่ในโซน South East Asia ซึ่งในโซนนี้ยังไม่มีประเทศไหนให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง จากตัวอย่าง 2ประเทศข้างบนได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลและยังเป็นการสร้างงานให้กับในประเทศ ทำให้ส่วนตัวผมคิดว่านี้เป็นโอกาสที่นานๆจะมาซักครั้งที่ประเทศไทยเราจะช่วงชิงข้อได้เปรียบตรงนี้ก่อนประเทศอื่น ด้วยการเป็น First’s mover ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีกฎหมายที่เป็นมิตรกับคริปโตและ ICO ซึ่งจะทำให้ดึงดูดนักลงทุนมากหน้าหลายตา เข้ามาลงทุนในประเทศและยังเป็นการสร้างงานให้กับคนภายในประเทศ ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราพลาดโอกาสนี้ไปจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆครับ

ตอนนี้พวกเราหลายๆคนก็ได้แต่เพียงแต่รอดูกฎหมายที่จะออกมาและคาดหวังให้ภาครัฐเห็นโอกาสแบบเดียวกับที่พวกเราเห็นเพื่อที่จะทำให้ประเทศไทยได้ก้าวเป็นไทยแลนด์ 4.0 อย่างแท้จริงและกลับมาเป็นเสือตัวที่ 5 ของ SEA อีกครั้งหนึ่ง

*บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมที่ได้ฟังและอ่านมาเพียงเท่านั้นหากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ

Source: https://cointelegraph.com/

Medium.com

Cr. ดร. ภูมิ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.