ประเทศไทยกำลังจะเป็นประเทศแรกๆที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain อย่างเป็นทางการ ในเร็วๆนี้
ข่าวรายงานวันนี้ว่า Omise (บริษัทที่อยู่เบื้องหลังโปรเจค OmiseGO) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันเพื่อที่จะพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในการให้บริการธุรกรรมออนไลน์ในประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยจะใช้ Infrastructure ของ Omise เพื่อให้บริการ National Digital ID แก่ประชาชน โดยหวังว่าจะลดการฉ้อโกงทางออนไลน์ เเละปกป้องผู้บริโภค นอกจากนี้ยังคาดว่าระบบจะทำให้ธุรกรรมออนไลน์สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นเเละมีประสิทธิภาพต่อผู้ใช้งาน
Jun Hasegawa ผู้ก่อตั้ง OmiseGo โพสผ่านทวิตเตอร์ โดยเน้นยํ้าผลดีของเทคโนโลยี ฺBlockchain ที่จะมีต่อประชาชนไทย
ในขณะที่ข่าวได้กล่าวถึงแนวคิดการนำ ฺBlockchain มาใช้งานเป็นครั้งแรก แต่ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยีว่าจะสามารถรองรับปริมาณงานขนาดใหญ่ได้หรือไม่ โดยในปัจจุบันการทำงานที่จริงของ Ethereum Blockchain จะต้องผ่านกระบวนการยืนยัน เเละระบบไม่สามารถประมวลผลในปริมาณงานที่ Platfrom ระดับประเทศต้องการ OmiseGo ได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนา Ethereum เพื่อที่จะเเก้ปัญหานี้ โดยมุ่งหมายจะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการที่เรียกว่า Plasma
สัปดาห์ที่เเล้ว OmiseGo ยังได้มีส่วนร่วมในการเปิดตัว Ethereum Community Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างโปรเจคที่พัฒนาบนเครือข่าย Ethereum โดยมุ่งหมายที่จะปรับปรุงการวิจัยเเละการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาการขยายตัว โดยเป็นสัญญาณว่าการพัฒนากำลังเพิ่ม พร้อมกับความหวังที่จะนำแนวคิดมาใช้ดูชัดเจนขึ้นเมื่อเทคโนโลยี Blockchain ได้รับความนิยมมากขึ้น แม้ว่าเครือข่าย Ethereum จะตรงกับความคาดหวังที่สูงของผู้ที่ชื่นชอบ Blockchain หรือไม่จะยังไม่ชัดเจนก็ตาม แต่เหมือนว่าเราจะได้ทราบภายในปีนี้
รัฐบาลทั่วโลกกำลังพิจารณาประโยชน์ของเทคโนโลยี Blockchain เมื่อ Cryptocurrencies กำลังได้รับการพิจารณาจากประเทศเซเนกัลเเละสก๊อตเเลนด์ ในขณะที่ข้อดีของ Cryptocurrencies กำลังถูกพิจารณา การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้อาจต้องใช้เวลาหลายปี การประกาศความร่วมมือเช่นในวันนี้อาจทำให้เราได้เห็น Blockchain ถูกมาใช้ได้เร็วมากขึ้น การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลเป็นความกังวลหลักของรัฐบาลที่กังวลว่า Cryptocurrencies เสนอช่องทางสำหรับบุลคลที่จะหลีกเลี่ยงกฏหมายทางการเงิน ความร่วมมือของ Omise กับรัฐบาลไทยในเรื่องนี้อาจช่วยให้ Omise นำหน้า Platforms คู่เเข่ง เเละหาก Infrastructure สามารถรองรับได้ก็จะสามารถนำหลักการนี้มาใช้ได้