Gems Protocol คืออะไร?
คือ crowdsourcing protocol ที่ทำงานอยู่บน blockchain ของ Ethereum ซึ่งเป็นระบบ decentralized หรือก็คือ plateform ที่เชื่อมระหว่างผู้ว่าจ้างงาน(who want to work done) และคนงาน(human wokers) และงานในที่นี้ก็คือ micro task
Micro task คือ
งานที่ต้องใช้คนในการตรวจสอบ หรือทำสิ่งที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำได้ และสามารถทำผ่านอินเตอร์เนตได้ และส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค micro task นั้นถูกใช้ในวงกว้างมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Facebook, Twitter, Google, Ebay และ Linkedin
มี Micro task เกิดขึ้นถึงพันล้านงานในแต่ละปี แค่ตลาดจีนก็สูงถึง 2 ล้านงาน สำหรับงานตรวจสอบผ่านอินเตอร์เนต แสดงให้เห็นว่าตลาดที่รองรับมันใหญ่มหาศาล และพร้อมที่จะเติบโตต่อไปเรื่อยๆ
ในปี 2005 Amazon ได้สร้าง Amazon Mechanical Turk(MTurk) คือ ตลาดออนไลน์ crowdsourcing ที่รวบรวมข้อมูล โดยการจ่ายเงินให้คนที่ทำงาน micro tasks ผ่านออนไลน์ ตั้งแต่นั้นมา demand ของการจ้างงาน micro task เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่ง Amazon Mechanical Turk และ crowdflower ถือเป็น crowdsourcing platform ที่ใหญ่ที่สุด
ตลาด crowdsourcing ปัจจุบันเป็นอย่างไร?
ต้องเข้าใจก่อนว่าตลาด Amazon และ Crowdflower เองถือว่าเป็น centralized marketplaces ซึ่งมีปัญหาหลายจุดมาก เรื่องที่เป็นปัญหามากที่สุดเลยคือ
- ค่าธรรมเนียมโดยปัจจุบันมีการเก็บขั้นต่ำอยู่ที่ 20% และอาจจะสูงสุดที่ 40% และยังมีทั้งการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือรายเดือนที่สูงมาก
- การตรวจสอบความถูกต้องของงานทำค่อนข้างยาก ผู้จ้างงานจะต้องให้ workers 5-15 คนในงานเดียวกันเพื่อยืนยันความถูกต้องของงาน นี้ทำให้เกิดความสูญเปล่า และเสียค่าใช้จ่ายอย่างมาก
- ตัว platforms ไม่มี interfaces ที่รองรับงานเฉพาะ ทำให้ผู้จ้างงานต้องเสียเงินพัฒนา ขึ้นมาเองทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- Worker จำนวนมากมีปัญหากับตัวระบบการใช้งาน เช่น ไม่มีสมุดบัญชีเป็นของตัวเอง หรือมีปัญหากับการจ่ายเงิน เป็นต้น
Gems จะมาช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร
1.ไม่มีค่าธรรมเนียม(No Fee)
Gems จะไม่ทำตัวเป็นคนกลางคอยเก็บค่าธรรมเนียม สามารถให้ผู้ว่าจ้าง(requester) และผู้รับงาน(worker) เจอกันโดยตรงได้เลย ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นอย่างเดียวคือ ค่า gas ที่ใช้อยู่บนเครือข่ายของ Ethereum
2. ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงง่ายขึ้น(Participation)
ระบบ crowdsourcing เดิมมีการยืนยันตัวตนที่ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร เช่น ต้องมี facebook, หรือ linkedin และต้องรอการ verified จากทีมงานอีก แต่ Gems นั้นไม่ต้องผ่านการ verified แต่จะใช้ระบบ Staking และดูจาก trust score ซึ่งเป็นระบบที่น่าเชื่อถือสูง
3. ระบบการจ่ายเงิน(payment)
แน่นอนว่า gems จะใช้ระบบ blockchain เข้ามาช่วยให้เรื่อง payment ไม่ต้องการ bank account อีกต่อไป ไม่ต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มพิเศษ ซึ่งทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงมากขึ้นในตลาด
4. ความง่ายในการใช้งานระบบ(Usability)
ระบบเดิมมี interface ที่ค่อนข้างจะล้าสมัย และใช้ได้กับแค่งานบางอย่าง ถ้าเป็นงานเฉพาะเจาะจง ผู้ว่าจ้างต้องเป็นผู้พัฒนา interface เอง Gems จะแก้ปัญหาโดยการทำ Open Sourced UI/UX and Modules ซึ่งจะทำให้มีการพัฒนาและอัพเดทอยู่ตลอด
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง gems กับ Amazon และ Crowdflower
มาดูทีมงานกันบ้าง
ผู้ก่อตั้งเป็นสองพี่น้องจบจาก Harvard และเคยเป็นผู้ก่อตั้ง gifs.com มาก่อน และสำหรับ advisor น่าสนใจมากมีผู้ก่อตั้ง twitter ร่วมด้วย ถือว่าเป็นทีมงานมากคุณภาพเลย
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
Crowdsourcing model ที่มา https://www2.deloitte.com/content/dam/Deloitte/de/Documents/Innovation/us-cons-enterprise-crowdsourcing-and-growing-fragmentation-of-work%20(3).pdf
กลุ่มงานที่ support งานด้าน AI ที่ Gems จะเจาะตลาดในช่วงแรก ที่มา https://goo.gl/hKPQcL
Crowdsourcing นั้นถูกแบ่งออกเป็นหลาย segment ตามภาพ ซึ่งกลุ่มที่ Gems จะเจาะคือ micro task และในกลุ่มงาน micro task ในช่วงแรก Gems มุ่งเน้นไปที่งานที่เกี่ยวข้องกับ data เพื่อ support งานด้าน AI, Machine learning หรือ deep learning เช่น งาน label ข้อมูล หรือการระบุชื่อประเภทของข้อมูล ซึ่งในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เติบโตสูงมาก และเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี และถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่มีการ focus กลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน และเป็น กลุ่มที่มีอัตราการเติบโตที่สูง
มูลค่าเหรียญ Gems จะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร?
ยิ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมาก เกิด community ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆทำให้ความต้องการเหรียญ Gems เพิ่มขึ้น และเมื่อมีความต้องการเหรียญเพิ่มขึ้นทำให้ราคาเหรียญ Gems เพิ่มขึ้นตามจำนวนปริมาณผู้คนที่เข้ามาใช้งาน
ความสำเร็จที่ผ่านมา
Gems ถือว่าประสบความสำเร็จในการสร้าง community อย่างมาก และยังใช้เวลาอันสั้นอีกด้วยมีผู้สมัคร whitelist เกิน 35,000 คน และปัจจุบันสมาชิก telegram อยู่ที่ประมาณ 47,000 คน
gems มีผู้สมัครเข้าเตรียมซื้อ ICO อย่างถล่มทลาย
อัตราการเข้า telegram ของแต่ละกลุ่ม ในช่วงวันที่ 5 ที่มา https://blog.svkcrypto.com/2018/01/05/gems-an-upcoming-ico/
จุดแข็ง
- ในช่วงที่ผ่านมา Gems ถือว่ามีประสบความสำเร็จค่อนข้างมากในการสร้าง community
- มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และมี potentail
- สิ่งที่ Gems สามารถทำได้เหนือกว่าคู่แข่งอย่างมากคือ ค่าธรรมเนียมที่น้อยลง นี้จึงเป้นสิ่งที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุด
จุดอ่อน
- Gems ถือว่าเข้ามามาในตลาด micro task โดยมีรายใหญ่อยู่ในตลาดนี้ก่อนแล้วคือ Amazon และ Clowdflower ทำให้ผู้บริโภคอาจจะติดแบรนด์เดิม และอีกอย่างนึงคือต้องมี swiching cost เกิดขึ้นแน่นอนเมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้บริการของ Gems
สรุป : Gems ถือว่าน่าสนใจในการลง ICO อย่างมาก(ปัจจุบันปิดไปแล้ว) สามารถทำ flip ได้ หรือถ้าใครไม่ทันจะหาจังหวะเก็บหลังจากเข้า Exchange แล้วก็ได้ครับ ถือเป็น longterm ได้อีกตัว ส่วนตัวแอดมินให้ 7.5 คะแนนครับ