5 สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ BlockChain ในปี 2018

0
2222

Peter Loop  รองประธานและสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์อาวุโสจาก Infosys ซึ่งขณะนี้บริษัทของเขากำลังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Cryptocurrency กับ Blockchain  รวมถึงการจัดการกับ API และการใช้ Cloud ในระดับองค์กร

ในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา เราได้เห็นผู้นำด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ blockchain  นอกเหนือจากไมโครซอฟท์และIBMแล้ว  ออราเคิลยังได้ประกาศเมื่อเดือนตุลาคมว่าจะมีการนำเสนอบริการระบบ Cloud บน Blockchain อีกด้วย  ในขณะที่  SAP  เองก็กำลังจะเปิดทดสอบระบบ Blockchain  ของตัวเองในเดือนพฤษภาคม จากการเคลื่อนไหวเหล่านี้ เป็นที่แน่นอนว่า บริษัทอีกกว่า 500 บริษัทกำลังเตรียมตัวที่นำ Blockchain มาให้บริการกับผู้ใช้งานของเขา

นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการนำไปใช้งานในปี 2017  แต่แม้กระทั่งการพัฒนาในเชิงบวกเหล่านี้ก็ยังถือว่าเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

หน่วยงานของภาครัฐเองก็กำลังร่วมมือกันเพื่อค้นหาประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจาก Blockchain  และก็มีผู้ประกอบการที่กล้าคิดว่าเทคโนโลยี Blockchain นี้จะสามารถใช้เป็นพื้นฐานสำหรับสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้อย่างไร

แม้กระทั่งความบ้าคลั่งล่าสุดของ Bitcoin ซึ่งทำให้ชุมชนของนักลงทุนทั้งหลายตกตะลึงและก่อให้เกิดการดูหมิ่นและยกย่องชื่นชม  ก็ไม่สามารถขัดขวางความก้าวหน้าของ Blockchain ได้  ในขณะที่เรากำลังติดตามการเดินทางของ Bitcoin นั้น ลองมาดูสิ่งที่เราคาดว่าจะได้เห็นกันในปี 2018

1. เอเชียและตะวันออกกลางจะผลักดัน Blockchain อย่างมาก

ความสนใจใน blockchain ยังคงสูงมากในเอเชียและตะวันออกกลาง  ที่ซึ่งมีสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งกำลังมีโปรเจคที่เกี่ยวกับ Blockchain โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการชำระเงิน

2. Cyber ​​security จะขยายการยอมรับ Blockchain

ด้วยการเพิ่มขึ้นของการโจมตี ransomware โดยเรียกร้องเป็น Cryptocurrencies  เทคโนโลยี Blockchain และ IoT cybersecurity จะเกิดขึ้นพร้อมกับการป้องกันตามเทคโนโลยี Cryptocurrency

ตอนนี้อาจฟังดูแปลกตาและแปลกใหม่  การเกิดขึ้นของเครื่องมือ cybersecurity blockchain อาจเป็นเรื่องใหญ่ถัดไปในโลกของ Blockchain  บริษัทโดยทั่วๆไปยังไม่มีระบบป้องกันของข้อมูล  ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีความปลอดภัยมากขึ้น

3. ICOs จะเพิ่มมากขึ้น

เกิดการสั่นสะเทือนมากขึ้นกับวงการ ICOs ในปี 2017 และระบบนิเวศของ cryptocurrencies ได้ขยายออกไปอย่างมาก ในปีนี้อัตราการเติบโตของ ICO จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะแซงหน้าการระดมทุนของ VC

4. การเงินและระบบประกันจะหายไปทั้งหมด

ภาคประกันภัยและการเงินมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยี blockchain ที่ลึกซึ้ง  JPMorgan กำลังจะเปิดการซื้อขาย cryptocurrency  แม้จะมีความคิดเห็นแบบไวรัลของ Jamie Dimon เกี่ยวกับความถูกต้องของ cryptocurrencies

5. ระบบอัตโนมัติกำลังจะมา

Blockchain จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอลขององค์กรโดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ  กระบวนการแปลงข้อมูลเป็นรูปแบบดิจิทัล  นอกจากนี้  ประเด็นเรื่องการกำกับดูแลจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตอย่างต่อเนื่องเช่น Bitcoin ( Segwit2x ), ethereum ( Parity Funds ) และอื่นๆเมื่อมีเรื่องท้าทายใหม่ๆเกิดขึ้น  สิ่งเหล่านี้จะผลักดันองค์กรให้เกิด “Private” Blockchains  แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจะชะลอการเจริญเติบโตของ cryptocurrencies ได้

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.