เมื่อปีที่ผ่าน ผู้คนจำนวนมากได้เข้ามามีส่วนร่วมของการพุ่งของราคา Bitcoin วัยรุ่นหลายคนนำเงินเพื่อการศึกษาของพวกเขามาลงทุน บางครอบครัวจำนองบ้านและของมีค่าต่างๆเพื่อนำมาลงทุน แม้กระทั้งมหาเศรษฐีได้แนะนำให้ลงทุนในคริปโตเป็นมูลค่าประมาณ 10% ของสินทรัพย์ที่ถืออยู่
เงินลงทุนจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามาในตลาดคริปโต แต่พาหนะในการลงทุนอย่าง Bitcoin ยังคงมีปัญหามากมาย ยกตัวอย่างเช่นการร่วงของราคาประมาณ 30% ภายในวันเดียว ไม่สามารถกู้ Bitcoin กลับมาได้ถ้าถูกแฮ็ค และเทคโนโลยี Bitcoin อาจจะตามหลังเหรียญดิจิตอลใหม่
หลายๆคนมีแนวโน้มจะมองไปที่เหรียญ altcoins ที่ดังๆเมื่อพวกเขาคิดว่าเหรียญไหนจะสามารถโค่นราชาแห่งเหรียญลงได้ แต่ภัยคุกคามอาจจะมาจากโลกแห่งความเป็นจริง
Amazon คือร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Amazon ขายสินค้าได้มากกว่า 94 ล้านเหรียญเมื่อปีที่ผ่านมา การซื้อขายออนไลน์ในอเมริกาเกือบครึ่งมาจาก Amazon และ Amazon ยังดำเนินงานขายสินค้าทั่วโลกอีกด้วย แต่ในด้านการชำระเงิน Amazon ยังไม่อนุญาติให้ลูกค้าใช้ Bitcoin หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆในการใช้จ่าย
ผู้นำการขายสินค้าออนไลน์ มันคือจุดที่สำคัญถ้า Amazon จะเลือกเหรียญไหนมาใช้งาน นั้นหมายถึงเหรียญนั้นจะได้รับการสนับสนุนอย่างมาก อะไรคือสิ่งที่ Amazon จะทำ
ปัญหาและอุปสรรค
หนึ่งในเหตุผลที่ Amazon หลีกเลี่ยงเหรียญดิจิตอลคือข้อจำกัดของความเร็วในการทำธุรกรรม ลองมาดูเหรียญดิจิตอลดังๆสองเหรียญอย่าง
Bitcoin : 7 ธุรกรรมต่อวินาที
Ethereum : 15 ธุรกรรมต่อวินาที
ธุรกรรมในช่วงพีคของ Amazon เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 600 ธุรกรรมต่อวินาที ถ้าลูกค้าบางคนตัดสินใจจะจ่ายเงินด้วยคริปโต พวกเขาอาจจะต้องรอเป็นชั่วโมงให้การทำธุรกรรมสำเร็จ มันคงไม่ดีต่อลูกค้าแน่ๆ
ความช้าในการทำธุรกกรมหมายถึง Amazon จะหลีกเลี่ยงการใช้เหรียญคริปโต Bitcoin และ Ethereum เหรียญเหล่านี้ยังช้าไปสำหรับการนำมาใช้งานใน Amazon แต่เหรียญอื่นๆอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น
เหรียญตัวเลือกอย่าง Ripple มีความเร็วในการทำธุรกรรมในขณะทดสอบอยู่ที่ประมาณ 1500 ธุรกรรมต่อวินาที
ทำไม Amazon อาจจะพิจารณาเหรียญคริปโต
ถึงแม้ว่าจะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีคำบอกใบ้บางอย่างได้แนะนำว่า Amazon กำลังพิจารณาในเรื่องนี้และอาจจะไม่เป็นมิตรกับ Bitcoin
ตามข่าวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมได้แจ้งว่า Amazon ได้ซื้อโดเมน amazonethereum.com, amazoncryptocurrency.com, และ amazoncryptocurrencies.com การเคลื่อนไหนในครั้งนี้อาจจะครอบคลุมแค่ฐานของ Amazon หรือมันอาจจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจในอนาคต
Amazon มี services ที่ขาย gift card สำหรับ bitcoin ดังนั้นการที่ Amazon เสนอขาย Bitcoin หมายถึงการตัดคนกลางออก
สุดท้ายหนึ่งในหลักการหลักของ Amazon คือ การทำให้ลูกค้าหลงใหล ถ้าลูกค้าต้องการจะชำระเงินด้วยเหรียญคริปโต Amazon ต้องเสนอสิ่งนั้นให้ลูกค้า
การขายสินค้าทั่วโลก เหรียญดิจิตอลสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักช๊อปสำหรับการจับจ่ายใช้สอยโดยไม่ต้องคำนึกถึงอัตราแลกเปลี่ยน
อะไรอาจจะเกิดขึ้น
มีความเป็นไปได้ 3 ทางที่อาจจะเป็นอันตรายต่อ Bitcoin
1. Amazon จะอยู่ห่างๆจากเหรียญคริปโต
การที่จะก้าวข้ามเส้นจากการลงทุนสู่เงินตราหลัก Bitcoin ต้องมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ถ้า Amazon ไม่สนใจในตรงนี้ Bitcoin อาจจะประสบความยากลำบากเพราะ Amazon คือร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การกระทำนี้อาจจะไม่สามารถฆ่า Bitcoin ได้แต่อาจจะได้รับบาดเจ็บ
2. Amazon อาจจะนำคู่แข่งของ Bitcoin มาใช้งาน
มีความเป็นไปได้ที่ว่า Bitcoin ไม่สามารถพบกับความต้องการของ Amazon ในด้านความเร็วในการทำธุรกรรม Ripple จะเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพที่มาพร้อมกับ 1000+ ธุรกรรมต่อวินาที ถ้าสถานการณ์นี้เป็นจริง มันอาจจะเป็นการอวสานของ Bitcoin จากการเป็นเหรียญตัวท็อป การร่วมงานของ Visa กับ Manaco ส่งผลให้เหรียญของ Manaco พุ่ง 700% ดังนั้นการร่วมมือของเหรียญตัวไหนกับ Amazon จะทำให้เหรียญนั้นทะยานเหมือนกับจรวด ถ้า Amazon เลือกทางนี้ มันคงไม่สามารถฆ่า Bitcoin ได้แต่อาจจะเตะ Bitcoin ออกจากจุดสูงสุดได้
3. Amazon สร้างเหรียญของตัวเอง
ถ้า Amazon Prime video คือการแสดง – Amazon รักที่จะเล่นเกมส์ในที่ที่สามารถนำ Developer มาเป็นส่วนหนึ่งของเกมส์ Amazon จะมีสินค้าตั้งแต่ cloud storage สู่ videoing streaming สู่การนำเสนอ hardware ถ้า Amazon เห็นความสำคัญในคริปโตมันจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทใหญ่ๆนำ token มาจำหน่าย ในเดือนกันยายาปี 2017 โปรแกรมแชท Kik ได้ระดมทุนไป 75 ล้านเหรียญ มูลค่าหุ้นของ Overstock ได้เพิ่มขึ้น 30% หลังจากการประกาศแผน ICO ของพวกเขาในเดือนธันวาคม
ถ้า Amazon สร้างเหรียญของตัวเอง พวกเขาจะสามารถนำมาใช้เหรียญมาใช้ได้ในหลายๆการบริการจาก Amazon Prime สู่ Twitch สู่ Audible พวกเขาจะสามารถต่อกรกับเหรียญคริปโตอื่นๆได้และนำเหรียญดิจิตอลมาใช้ในกระแสหลักโดยเสนอส่วนสด 5% หรือ 10% ในการใช้จ่ายกับ AmazonCoin กับ Developer จำนวนหมื่นคนและค่าตอบแทนที่สูง การจะหาคนที่เก่งมาช่วยออกแบบเหรียญคริปโตคงไม่ใช่เรื่องยาก
นี้คือสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดของ Bitcoin แต่มันขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของ Amazon
จับตามอง Amazon ต่อความต้องการใช้เหรียญคริปโตที่สูงขึ้น
ในขณะนี้ Amazon ยังคงเก็บตัวเงียบเกี่ยวกับแผนการต่างๆ แต่เมื่อไรก็ตามที่ Amazon ได้เลือกเหรียญคริปโต มันอาจจะกลายเป็นสิ่งสำคัญชั่วข้ามคืน
ไม่ว่า Amazon จะเลือก Bitcoin, Ethereum หรือเหรียญอื่นๆ การตัดสินใจของพวกเขาจะนำไปสู่ผลที่ตามมาอย่างยิ่งใหญ่ต่อเหรียญคริปโต เหรียญคริปโตอื่นและเทคโนโลยี Blockchain อาจจะอยู่รอด แต่ Bitcoin อาจจะไม่
อื้มมมม…ต้องติดตาม