เมื่อเอ่ยถึง “การขุด Bitcoin” จะมีความหมายเหมือนคำว่า ความปลอดภัย ความมีคุณค่า และอิสระทางการเงิน คำพูดเดียวกันนี้ยังทำให้เกิดภาพของต้นไม้ที่ถูกไฟใหม้ คราบน้ำมันบนผิวน้ำ ลูกแมวกำลังร้องให้ ในขณะที่การคำนวณการใช้พลังงานในการขุด Bitcoin ยังเป็นที่ถกเถียง ข้อกล่าวหาที่รุนแรงคือมันจะอยู่เหนือการควบคุมของเรา พวกมันไม่ใช่แค่ไม่ถูกต้อง – พวกมันเป็นตัวอันตราย
อย่าเชื่อในคำโฆษณา
มันน่าแปลก: Bitcoin ปรากฎออกสู่สาธารณชนและยึดหัวข้อข่าวได้ทั่วโลก ในทันทีทันใดผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมก็พร้อมใจกันพูดว่า “เฮ้ยยย คิดถึงโลกเราบ้างเซ่” มีข้อความมากมายออกมาจากคนที่เกลียด Bitcoin โดยการทวีตผ่าน Iphone ที่ทำมาจากโลหะที่หาได้ยากและมีราคาของพวกเขา ในขณะที่ตัวเขาอยู่บนรันเวย์และกำลังจะเดินทางด้วยเครื่องบินที่ใช้น้ำมัน มันกำลังจะกลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ Digital currency ตอนนี้ ปัญหาการก่อการร้าย การฟอกเงินและยาเสพย์ติดสิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย
เว้นแต้คุณจะอาศัยอยู่ในกระท่อมที่ทำจากโคลนและรีไซเคิลปัสสาวะของคุณเอง ตัวคุณเองก็ทำลายธรรมชาติ เราทุกคน ตั้งแต่ที่เราลืมตาดูโลกจนถึงวันที่หมดลมหายใจ พวกเราทำให้เกิดมลพิษ การกินอาหารสำเร็จรูป การใช้ขนส่งสาธารณะ การใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งหมดนี้ก็ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม การทำเหมือง Bitcoin ก็ไม่ได้รับการยกเว้น มีการแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานของมัน อย่างไรก็ตาม มีคำเตือนพยากรณ์ว่าออกมาว่าการขุด Bitcoin จะทำให้ดาวเคราะห์ของเราเกิดการหลอมละลายอย่างช้าๆ
สถิติคือศิลปะแห่งการหลอกลวงด้วยตัวเลข
มีหัวข้อข่าวที่ฟังดูน่ากลัวกว่าเดิมว่า “Bitcoin ใช้พลังงานมากเท่ากับ คนแคนาดา 520,000 คนต่อวัน” หรือ “Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้า 1 / 16,000th ต่อปี” ทั้งสองข้อความนั้นเป็นความจริงและก็มีความแตกต่างในค่าสถิติเดียวกัน นี่เป็นหนึ่งในข้อข้อความโต้แย้งที่จะแสดงให้เห็นเช่น “มันง่ายที่จะทำให้ตัวเลขนี้มีค่าเล็กน้อย” เพื่อเป็นการสนับสนุนข้อความข้างต้นลองดูตัวอย่างนี้ “เขื่อนซานเสียต้าป้าในจีน ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 3 เท่าของการบริโภคพลังงานของ Bitcoin” และ “การขุด Bitcoin ทั้งปี ใช้พลังงานเท่ากับ U.S. ใช้เพียง 19 ชั่วโมง”
พวกเขาไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเพื่อให้เกิดการลดปริมาณการขุด Bitcoin เพียงอย่าเน้นย้ำให้มันมากเกินไป แต่ให้พยายามบอกออกไปตามสื่อกระแสหลักต่างๆที่พวกคุณเคยพาดหัวให้เกิดความตื่นตกใจกลัว
Bitcoin Mining: แท้จริงแล้วน่ากลัวกว่าฮิตเลอร์
“เหมืองแร่ไซเบอร์กำลังดูดเอาพลังงานของโลก” ขอกรีดร้องให้กับหัวข้อข่าวย่อยของเดลี่เมล์ในสุดสัปดาห์นี้ พวกเค้าบอกว่า
“เมื่อพิจารณาถึงอัตราการเติบโตในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ว่าในปี 2020 สกุลเงินดิจิตอลอาจต้องใช้กระแสไฟฟ้ามากขึ้นกว่าที่ทั่วโลกใช้ในปัจจุบัน และมันส่งจะผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน”
มันถูกต้อง ในสองปี Bitcoin จะใช้พลังงานมากกว่าที่เหลืออยู่ในโลก เมื่อถึงตอนนั้น เมืองจะกลายเป็นซาก เหลือเพียงกองสูงตระหง่านของเครื่องขุด ASIC รถยนต์ บ้าน และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจะหายไป กาต้มน้ำในวันนี้ พรุ่งนี้จะกลายเป็นที่บรรจุเครื่่อง ASIC ในขณะที่วิกฤติวันสิ้นโลกจะไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะพวกเราตายไปหมดแล้ว
เป็นเรื่องที่น่าขันเพราะข้อเท็จจริงที่ว่าคนทั่วไปซึ่งไม่มีความเข้าใจในเรื่องคุณค่าของ Bitcoin จะปิดกั้นในหลักความจริง และนี่เป็นตัวอย่างจากอีกมากมายของข่าวที่จะทำให้เกิดการนองเลือด อ่าน
มุมมองเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีพลังงานจำนวณมากถูกใช้ไปโดยสกุลเงินอื่นๆ การหาโลหะที่มีค่าต่างๆ และ Bitcoin เปรียบเทียบกับระบบธนาคารต่างๆทั่วโลกนั้นดีกว่ามาก การทำเหมืองแร่ทองคำเพียงแห่งเดียวใช้พลังงานมากถึง 16 เท่าของการขุด Bitcoin นอกจากนั้น การหาแหล่งพลังงานที่มีราคาถูก นักขุด Bitcoin จะเสาะแสวงหาแหล่งที่เหมาะสมกับการขุด อีกทั้งการทำเหมืองแร่นั้นจะมีความยากมากขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะมาจากการกำจัดทำลายแก๊ส น้ำมันและถ่านหินซึ่งมีต้นทุนในการขนส่ง
บางทีซาโตชิเองอาจจะเข้าใจมันได้ดีที่สุด : “การทำเหมืองแร่ทองคำนั้นคือขยะ แต่ขยะนั้นก็ยังห่างไกลน้อยกว่าการนำทองคำมาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน … ประโยชน์ของการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจาก Bitcoin จะมากมายเกินกว่าต้นทุนไฟฟ้าที่ใช้ ดังนั้น Bitcoin ไม่มีทางกลายเป็นขยะ”